กระทรวงสาธารณสุข วางนโยบายการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ปีงบประมาณ พ.ศ.2566-2568 จำนวน 19 สาขา มุ่งพัฒนาระบบบริการให้สอดรับกับความต้องการของประชาชน เข้าถึงบริการสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ลดอัตราป่วย ลดอัตราตายโรคที่สำคัญ ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ และสร้างความเข้มแข็งให้ระบบสาธารณสุขไทย
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ซึ่งทศวรรษที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบสาธารณสุขไทยและการให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนอย่างชัดเจน หน่วยบริการตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ ทุติภูมิ ตติยภูมิ และศูนย์ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีการบริการที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายบริการในแต่ละเขตสุขภาพ ทำให้ดูแลประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงได้อย่างครอบคลุม
การดำเนินงานต่อจากนี้ จะอยู่ในแผนระยะ 3 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2568) มุ่งเป้าพัฒนาระบบบริการที่สอดรับกับความต้องการของประชาชนและส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้มากขึ้น, มีฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกัน ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้, มีการลงทุนที่เหมาะสมสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ และมีอัตรากำลังของบุคลากรที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม
“การทำงานให้ยึดหลัก “ททท” คือ “ทำทันที-ทำต่อเนื่อง-ทำและพัฒนา” สร้างความร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกระดับเพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทยสู่การยกระดับบริการ ช่วยลดอัตราตายจากโรคที่สำคัญ ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน ลดอัตราป่วย ลดการรอคอยและลดความแออัด โรงพยาบาลต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน ให้บริการด้วยความปลอดภัย รวดเร็ว และประทับใจ” นายแพทย์โอภาสกล่าว
สำหรับระบบบริการสุขภาพ 19 สาขา ประกอบด้วย
1.โรคหัวใจ
2.โรคมะเร็ง
3.อุบัติเหตุและฉุกเฉิน
4.ทารกแรกเกิด
5.สุขภาพจิตและสารเสพติด
6.แม่และเด็ก
7.ระบบบริการปฐมภูมิและสุขภาพอำเภอ
8.สุขภาพช่องปาก
9.ไต
10.ตา
11.โรคไม่ติดต่อ
12.แพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน
13.การรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ
14.การใช้ยาอย่างสมเหตุผลและการจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพ
15.การดูแลระยะเปลี่ยนผ่านผู้ป่วยกึ่งเฉียบพลันและการดูแลแบบประคับประคอง
16.ศัลยกรรม
17.อายุรกรรม
18.ออร์โธปีดิกส์
19.การใช้กัญชาทางการแพทย์