วว. จับมือพันธมิตรจังหวัดสงขลา เดินหน้าโครงการผลิตน้ำประปาจากน้ำฝน มุ่งลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมหุ่นยนต์และเครื่องจักรกลอัตโนมัติ  ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)  เดินหน้าโครงการ “การเสริมสร้างศักยภาพให้ชุมชนบริหารจัดการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการผลิตน้ำประปาจากน้ำฝน”

ติดตั้งชุดผลิตน้ำประปาจากน้ำฝนและผลิตน้ำประปาพร้อมดื่มแจกจ่ายให้กับจังหวัดสงขลา ในพื้นที่ชุมชน อบต.บ้านขาว หมู่ที่ 2 และ 3  ระบุขณะนี้ครัวเรือนสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ที่ 0.437 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี   เผยอยู่ระหว่างการระดมความคิดเพื่อจัดตั้งเป็นกองทุนน้ำดื่มหมู่บ้าน  สำหรับเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมที่มีรูปแบบการจัดสรรกองทุนในการบริหารจัดการค่าดำเนินการ  โดยมีเป้าหมายให้ชุมชนสามารถซื้อน้ำดื่มได้ 20 ลิตร ในราคาเพียง 5 บาท  ซึ่งถูกกว่าราคาจำหน่ายน้ำดื่มในท้องตลาด

ศ. (วิจัย) ดร. ชุติมา   เอี่ยมโชติชวลิต   ผู้ว่าการ วว.  กล่าวถึงการติดตั้งชุดผลิตน้ำประปาจากน้ำฝน ในพื้นที่ อบต.บ้านขาว ว่า ได้กำหนดพื้นที่ในการติดตั้งจำนวน 7 แห่ง  ซึ่งมีจำนวนครัวเรือนทั้งสิ้น   273  ครัวเรือน  โดยขณะนี้ได้ดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จที่โรงเรียนชุมชนวัดบ้านขาว หมู่ 3   และบ้านพ่อผู้ใหญ่สุนทร หมู่ 2  จากการประเมินความเป็นไปได้ในทางเทคโนโลยีพบว่าคุณภาพน้ำประปาที่ผลิตได้ผ่านเกณฑ์การยอมรับของกระทรวงสาธารณสุขและองค์การอนามัยโลก (WHO)

ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งการอุปโภคและบริโภค  ส่วนการประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพจากโลหะหนักและจุลินทรีย์พบว่า ค่าสัดส่วนความเสี่ยงอันตราย (Hazard Index : HI )  มีค่า 0.014  ซึ่งมีค่าต่ำกว่า 1 แสดงว่า น้ำประปาที่ได้จากน้ำฝน ไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ  สามารถนำมาใช้ได้ทั้งบริโภคและอุปโภค  ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพจากโลหะหนักและเชื้อจุลินทรีย์  โดยเฉพาะความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง

สำหรับความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของโครงการผลิตน้ำประปาจากน้ำฝน เป็นการศึกษาต้นทุนและผลประโยชน์ของโครงการ  โดยทำการปรับมูลค่าด้วยอัตราเงินเฟ้อและตัวประกอบคิดลด (Discount Factor : DF)  ซึ่งทำหน้าที่ในการเพิ่มและปรับลดมูลค่าต้นทุน และมูลค่าผลประโยชน์ในอนาคตให้เป็นมูลค่าปัจจุบัน  โดยใช้ตัวชี้วัด คือ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value : NPV) อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน (Benefic-Cost ratio : BCR)  อัตราตอบแทนภายใน (Internal Rate of Return : IRR)  และระยะเวลาคืนทุนของโครงการ (Payback Period)  โดยนำมูลค่าของคาร์บอนไดออกไซด์ที่ขายได้นำมาประเมินด้วย   ซึ่งจากการประเมินพบว่า ค่า NPV และ BCR มีค่ามากกว่า 1 และ IRR มีค่ามากกว่า อัตราดอกเบี้ยหรืออัตราคิดลด  แสดงว่า มีความคุ้มค่าในการลงทุนทางการเงิน และมีเกณฑ์การยอมรับข้อเสนอโครงการในการลงทุน   ไม่ว่าจะขายคาร์บอนเครดิตหรือไม่

“…จากการประเมินการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากโครงการผลิตน้ำประปาจากน้ำฝนพบว่า  ขณะนี้ในแต่ละครัวเรือนสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ที่ 0.437 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี   คิดเป็นมูลค่าซื้อขายคาร์บอนเครดิตได้ที่ 11 บาทต่อปี   หากคิดทั้งจังหวัดสงขลา ซึ่งมีจำนวนครัวเรือนอยู่ที่ 184,213 ครัวเรือน  จะสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 74,834  ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี  คิดเป็นมูลค่าซื้อขายคาร์บอนเครดิตได้ที่ 1.87 ล้านบาทต่อปี  โดยอัตราการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย ยังเป็นการซื้อขายแบบสมัครใจ  ซึ่งทางสมาคม carbon market club  ได้กำหนดราคาซื้อขายที่ 25 บาทต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์

จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่าการดำเนินการโครงการผลิตน้ำประปาจากน้ำฝนด้วยการสนับสนุนทุนวิจัยจาก บพท. ทำให้ วว. และจังหวัดสงขลาสามารถบรรลุเป้าหมาย ที่ต้องการให้ชุมชนมีน้ำที่สะอาดและมีคุณภาพใช้อย่างเพียงพอ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนด้วยเทคโนโลยีที่รองรับสังคมคาร์บอนต่ำได้อย่างเป็นรูปธรรม…” ผู้ว่าการ วว. กล่าว

นางพัทธนันท์  นาถพินิจ  นักวิจัยอาวุโส  ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมหุ่นยนต์และเครื่องจักรกลอัตโนมัติ วว. ในฐานะหัวหน้าโครงการฯ  กล่าวเพิ่มเติมว่า  ภายหลังจากทีมวิจัย  วว.  ได้นำเสนอโครงการให้กับรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา (นายอำพล  พงศ์สุวรรณ)  และนายอำเภอระโนด (นายไพโรจน์  ศรีละมุล)  และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านขาว (นายวรรณรพ  ส่องสว่าง) เมื่อเดือนกันยายนและสิงหาคม 2565  วว. และเครือข่ายพันธมิตร ได้เดินหน้าโครงการติดตั้งชุดผลิตน้ำประปาจากน้ำฝน  เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล พิสูจน์ความเป็นไปได้ในการนำน้ำฝนมาผลิตเป็นน้ำประปาพร้อมดื่ม  โดยพบว่าไม่มีความเสี่ยงทางสุขภาพกับชุมชน และสามารถลดโลกร้อนได้  โดยสามารถลดการใช้ขวดพลาสติกน้ำดื่ม และลดการใช้ไฟฟ้า สารเคมีจากการผลิตน้ำประปา

ซึ่งทำให้โครงการสามารถกำหนดแนวทางการดำเนินงาน ในส่วนของการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในด้านน้ำสำหรับการอุปโภคและบริโภค  รวมทั้งการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการของจังหวัดในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและรับบริการจาก ศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์และเครื่องจักรกลอัตโนมัติ  วว.  ติดต่อได้ที่ เลขที่  35 หมู่ 3  เทคโนธานี   ต.คลองห้า  อ.คลองหลวง  จ.ปทุมธานี  โทร. 0  2577 9254   (นางพัทธนันท์  นาถพินิจ)