นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ได้กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ความรับผิดชอบของ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 2 (สระบุรี) ซึ่งมีแขวงทางหลวงชนบท (ขทช.) ในความรับผิดชอบ ประกอบด้วย ขทช.สระบุรี ขทช.ชัยนาท ขทช.สิงห์บุรี และขทช.ลพบุรี โดยปัจจุบันมีสายทางหลวงชนบทได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 7 สายทาง แบ่งเป็น สัญจรผ่านได้แล้ว 4 สายทาง และสัญจรผ่านไม่ได้ 3 สายทาง ดังนี้
– ถนนทางหลวงชนบทสาย ชน.3018 แยก ทล.311 – อินทร์บุรี อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ช่วง กม.ที่ 0+500 – 0+550 น้ำไหลกัดเซาะผิวจราจรและไหล่ทางชำรุดเสียหาย
– ถนนทางหลวงชนบทสาย สห.4002 แยก ทล.3030 – บ้านจักรสีห์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ช่วง กม.ที่ 0+000 – 8+884 ระดับน้ำ 30 เซนติเมตร
– ถนนทางหลวงชนบทสาย สห.5042 แยกทางหลวงชนบทสาย สห.3008 – แยกทางหลวงชนบทสาย สห.5043 อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ช่วง กม.ที่ 0+000 – 6+915 ระดับน้ำ 30 เซนติเมตร
ขณะนี้ระดับน้ำในบางพื้นที่เริ่มลดลง สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 2 (สระบุรี) ได้กำชับหน่วยงานในพื้นที่ประสบอุทกภัย ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยทันที อาทิ ซ่อมแซมสายทางที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย จัดรถรับ – ส่งให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมขัง พร้อมทั้งเร่งสำรวจ ออกแบบ และประมาณการราคา เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการฟื้นฟูต่อไป เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่ห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชน พร้อมกำชับหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบ จัดเตรียมเครื่องจักรอุปกรณ์ เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดความสามารถ และรายงานผลการดำเนินงาน การช่วยเหลือให้ทราบเป็นระยะ ๆ จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ
สำหรับประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ขอให้เดินทางด้วยความระมัดระวัง สังเกตป้ายเตือน ป้ายบอกทาง โดย ทช. ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังบริเวณสายทางที่ได้รับผลกระทบ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน หากต้องการความช่วยเหลือหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบททุกจังหวัด หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146