กรมพัฒนาธุรกิจการค้า นำทีมผู้ประกอบธุรกิจและทายาทร้านอาหาร เยี่ยมชมงาน THAIFEX – World of Food Asia 2019 เพื่อศึกษาแนวโน้มตลาดและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในอนาคต การสร้างเครือข่ายธุรกิจกับผู้ส่งออกอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการหาตลาดและโอกาสการเปิดร้านอาหารในต่างประเทศ ก่อนจบหลักสูตร Smart Restaurant Business Camp
นางลลิดา จิวนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่า ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก ทั้งในเชิงจำนวนธุรกิจและจำนวนการจ้างงาน โดยมีการจ้างงานจำนวนมากเป็นอันดับ 2 รองจากการค้าส่ง-ค้าปลีก รวมถึงเป็นธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงและได้ประโยชน์จากธุรกิจท่องเที่ยว ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้ประกอบธุรกิจจึงควรปรับตัวตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญ กับรสชาติและคุณภาพของอาหาร แต่ยังต้องคำนึงถึงพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินการเพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าและลดต้นทุนในการดำเนินการจะส่งผลให้มีกำไรเพิ่มขึ้น
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เห็นความสำคัญของธุรกิจร้านอาหาร และมุ่งหวังให้ธุรกิจร้านอาหารมีองค์ความรู้ในด้านการบริหารจัดการและการตลาดที่ทันสมัย สามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล การเงิน การตลาด การประชาสัมพันธ์ และด้านอื่นๆ ที่สำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับประเทศและในระดับสากล
กรมฯ จึงจัดอบรมในหลักสูตร “Smart Restaurant Business Camp” ระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 12 มิถุนายน 2562 โดยมีเจ้าของกิจการและทายาทธุรกิจร้านอาหารเข้าร่วม จำนวน 117 ราย เป็นการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการ นำนวัตกรรมสมัยใหม่และเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจให้เกิดมูลค่าเพิ่มด้านการบริหารจัดการธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมพร้อม พร้อมนำคณะผู้เข้าร่วมกิจกรรมศึกษาดูงานและฝึกภาคปฏิบัติในงาน THAIFEX – World of Food Asia 2019 สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้และเกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจ
“ธุรกิจร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถดึงดูดนักลงทุนรายใหม่ให้เข้ามาลงทุนอยู่ตลอด ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารต่างๆ จำเป็นต้องมีการปรับแผนธุรกิจเพื่อให้รักษาขีดความสามารถในการแข่งขันและรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดที่มีอยู่ได้ โดยการเพิ่มช่องทางการสั่งซื้ออาหารและความหลากหลายของประเภทอาหาร รวมไปถึงการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” รองอธิบดี กล่าวสรุป
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1570 ส่วนพัฒนาเครือข่ายธุรกิจ กองธุรกิจบริการ โทร 0 2547 5958 ,0 2547 5963 อีเมล์ training@dbd.go.th และ www.dbd.go.th