กรุงไทยจัดขบวนแห่ยิ่งใหญ่ในงานนมัสการหลวงพ่อโสธร ปีที่ 132 นำทัพโดย “อิงฟ้า วราหะ”

ธนาคารกรุงไทย ร่วมงานนมัสการหลวงพ่อโสธร ปีที่ 132 และงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเที่ยวชมงาน พร้อมนำริ้วขบวนแห่ “เกริกเกียรติก้องกรุงไทย เทวะราชนาคาภุชคินทร์ ชลธีศรีบางประกง” นำโดย “อิงฟ้า วราหะ” ร่วมสืบสานประเพณี สนับสนุนการใช้จ่ายแบบไร้เงินสดกับร้านค้าในงานกว่า 400 ร้านค้า ฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก กระตุ้นเศรษฐกิจภาคตะวันออก โดยมี นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธีบวงสรวง พิธีเปิดงานนมัสการหลวงพ่อโสธร และงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารสนับสนุนการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธร และงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรามาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย โดยธนาคารร่วมจัดริ้วขบวนแห่ทางบกถวายองค์หลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองชาวแปดริ้ว ภายใต้แนวคิด “เกริกเกียรติก้องกรุงไทย เทวะราชนาคาภุชคินทร์ ชลธีศรีบางประกง” ตกแต่งเป็นรูปเทวะนาคผู้เป็นใหญ่ในสายชลธารบางปะกง ลำน้ำที่เป็นสายเลือดใหญ่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ สังคม ประเพณี และวิถีชีวิตของชาวแปดริ้ว โดยมี อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ และรองอันดับ 1 มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2022  ในชุดนาคพญานาคินี เทวีศรีประทุมมา สวมเครื่องศิระพัสตราภรณ์อันวิจิตรงดงามด้วยดอกปทุมชาติและผกาพรรณสีฟ้าอันรุ่งโรจน์ ซึ่งเป็นสีประจำธนาคาร ร่วมขบวนแห่และรำถวายเป็นพุทธบูชา ผสมผสานความล้ำยุคด้วย Krungthai NEXT เป๋าตัง ถุงเงิน และ แปดริ้ว อีซี่การ์ด บัตรอัตลักษณ์ของจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเชิญชวนเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัด ภายในงานกว่า 400 ร้าน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก และกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยแบบไร้เงินสด ผ่านการสแกน QR Code ระหว่างวันที่ 5-14 พฤศจิกายน 2565 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา

ธนาคารมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินที่ทันสมัย วางระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเคียงข้างชุมชนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้พึ่งพาตนเองได้ ตามวิสัยทัศน์ “กรุงไทยเคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน” โดยให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมต่อยอดความสำเร็จ จากการผลักดันจังหวัดฉะเชิงเทราสู่การเป็น Smart City เมืองอัจฉริยะ 5 ด้าน ได้แก่ 1. Smart Economy เศรษฐกิจอัจฉริยะ 2. Smart Mobility ระบบขนส่งอัจฉริยะ 3. Smart People พลเมืองอัจฉริยะ 4. Smart Living ความเป็นอยู่อัจฉริยะ และ 5. Smart Governance เพิ่มประสิทธิภาพระบบการทำงานให้เกิดธรรมาภิบาล สู่การส่งเสริมการค้าการลงทุน เพิ่มศักยภาพทางธุรกิจของฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้พร้อมรองรับนักลงทุนจากในประเทศและต่างประเทศ ผลักดันการลงทุนในประเทศให้เติบโตเต็มศักยภาพ ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกกลุ่มทั้งผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ และผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมทุกมิติ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคตะวันออกให้เติบโตอย่างยั่งยืน