นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำหลากในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคม 2565 ของพื้นที่ภาคใต้ ด้วยการกำหนดคน กำหนดพื้นที่เสี่ยง กำหนดเครื่องจักรเครื่องมือ พร้อมรับมือสถานการณ์ อาทิ
ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำรถแบคโฮ (บูมยาว) เข้าขุดลอกตะกอนทราย บริเวณปากคลองผันน้ำ (คลองลัดคลองบางสะพาน) และตะกอนทรายในคลองบางสะพานเดิม อำเภอบางสะพาน เพื่อเปิดช่องทางในการระบายน้ำให้สามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ที่จังหวัดสงขลา ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 เครื่อง บริเวณจุดเสี่ยง ที่ตำบลวัดสน อำเภอระโนด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่อำเภอระโนด พร้อมจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมืออื่นๆ ไว้พร้อมเข้าแก้ไขสถานการณ์ได้ทันที
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถานการณ์น้ำท่าอย่างใกล้ชิด พร้อมบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามเกณฑ์เก็บกักและสอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทานให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ และหมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางอย่างสม่ำเสมอ
ที่สำคัญได้ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นทำการประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง ตามมาตรการรับมือสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนปี 65 ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดอย่างเคร่งครัด