รพ.สังคม จ.หนองคาย นำร่องโครงการห้องปฏิบัติการ/รังสีวินิจฉัยแพทย์แผนไทย เขตสุขภาพที่ 8 ช่วยวินิจฉัย ติดตาม วางแผนรักษาได้แม่นยำ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีรับมอบ อาคารผู้ป่วยใน วรลาโภอนุสรณ์ (หลวงปู่เหรียญ) รองรับผู้ป่วยไทย-ลาว พระสงฆ์อาพาธได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ประชาชนได้รับการดูแลใกล้บ้าน พร้อมเปิดโครงการห้องปฏิบัติการและรังสีวินิจฉัยของแพทย์แผนไทย เขตสุขภาพที่ 8 ซึ่งนำร่องที่ รพ.สังคม ช่วยให้แพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีน วินิจฉัย ติดตาม วางแผนรักษาได้แม่นยำ
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ที่ โรงพยาบาลสังคม จังหวัดหนองคาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีรับมอบอาคารผู้ป่วยใน วรลาโภอนุสรณ์ (หลวงปู่เหรียญ) โดยมี พระราชภาวนาวชิรากร สุนทรญาณวรกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี (หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก) เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข อสม. จ.หนองคาย ร่วมพิธี พร้อมเปิดโครงการห้องปฏิบัติการและรังสีวินิจฉัยของแพทย์แผนไทย เขตสุขภาพที่ 8
นายอนุทิน กล่าวว่า เขตสุขภาพที่ 8 มีแนวคิดที่จะพัฒนาระบบงานห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์และรังสีวินิจฉัยให้การแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีน ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 8 อุดรธานี ในการฟื้นฟูสุขภาพผสมผสานกับการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยนำร่องที่โรงพยาบาลสังคม จังหวัดหนองคาย ซึ่งจะช่วยให้แพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีนมีการวินิจฉัยความผิดปกติของผู้ป่วย ติดตาม วางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง รวดเร็วและแม่นยำ ด้วยการส่งตรวจ LAB /X-ray ในกลุ่มโรคสะเก็ดเงิน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษา ให้ผู้ป่วยจะได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้นทั้งในด้านคุณภาพและความรวดเร็ว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า อาคารผู้ป่วยใน วรลาโภอนุสรณ์ (หลวงปู่เหรียญ) เป็นอาคาร 5 ชั้น ใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวน 135 ล้านบาท มีพระครูสุทธิญาณโสภณ ให้การสนับสนุนการก่อสร้าง และพระราชภาวนา วชิรากร สุนทรญาณวรกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี (หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก) เป็นประธานที่ปรึกษาในการก่อสร้าง เปิดบริการเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 ให้บริการห้องฉุกเฉิน ห้องฟอกไตขนาด 12 เตียง ผู้ป่วยสามัญหญิง ผู้ป่วยสามัญชาย ห้องพิเศษ และหอผู้ป่วยพระสงฆ์อาพาธ
โดยมีประชาชน อำเภอสังคม พื้นที่ใกล้เคียง และประชาชนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้ารับบริการผู้ป่วยนอกรวมกว่า 64,000 คน/ปี ช่วยให้พระสงฆ์ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ไม่ปะปนกับผู้ป่วยทั่วไป รวมถึงผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการฟอกไตได้รับ การดูแลใกล้บ้าน ไม่ต้องเดินทางเข้ารักษาในเมือง ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 1 – 1.30 ชม.