นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกระทรวงคมนาคม ประจำปี 2565 ณ วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกระทรวงคมนาคม ประจำปี 2565 ณ วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ในวันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.09 น. โดยมี นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม คณะผู้บริหารระดับสูง และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมพิธีฯ ซึ่งการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ กระทรวงคมนาคม หน่วยงานในสังกัด และประชาชนทั่วไปได้ร่วมบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 3,148,341.65 บาท

กฐินพระราชทาน เป็นกฐินที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานผ้าพระกฐินและบริวารกฐินซึ่งเป็นของหลวงให้ส่วนราชการ กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ ตลอดจนคณะบุคคลที่สมควรขอพระราชทานอัญเชิญไปถวายยังพระอารามหลวงต่าง ๆ นอกจากพระอารามหลวงสำคัญ 18 พระอาราม ที่ทรงกำหนดไว้ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินด้วยพระองค์เอง หรือจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์หรือองคมนตรี หรือผู้ที่ทรงเห็นสมควรเป็นผู้แทนพระองค์ไปถวาย โดยกระทรวงคมนาคมได้ถวายผ้าพระกฐินพระราชทานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เนื่องจากเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน เพื่อเป็นการอุปถัมภ์พระสงฆ์ที่จำพรรษาครบถ้วนไตรมาสให้ได้รับอานิสงส์ตามพระวินัย และเป็นทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์พระอาราม โดยเป็นการรวมพลังแห่งความสามัคคีทั้งทางกาย วาจา และจิตใจในการสร้างบุญกุศล สร้างความสุขของการอยู่ร่วมกันในสังคม รวมทั้งเป็นการจรรโลงและส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้มั่นคงดำรงอยู่เจริญวัฒนาสถาพรสืบไป

สำหรับวัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่บริเวณเหนือคลองโรงไหม ริมถนนจักรพงษ์ (สะพานเลี้ยว) เดิมอยู่กลางทุ่งนาจึงเรียกว่า “วัดกลางนา” โดยสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทได้ทรงสถาปนาวัดนี้ขึ้นใหม่ ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติ เป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี จึงมีพระราชประสงค์ที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างให้คล้ายคลึงกับกรุงศรีอยุธยามากที่สุด จึงได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดที่ตั้งอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังและเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เหมาะสม โดยทรงโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดกลางนา เป็น “วัดตองปุ” และให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญเช่นเดียวกับวัดตองปุที่กรุงศรีอยุธยา เพื่อเทิดเกียรติให้กับทหารชาวรามัญในกองทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับพม่าในสงครามเก้าทัพ เมื่อ พ.ศ. 2328 สงครามที่ท่าดินแดงและสามสบ เมื่อ พ.ศ. 2329 และสงครามที่นครลำปางป่าซาง เมื่อ พ.ศ. 2330 ทั้งนี้ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดตองปุแล้วถวายเป็นพระอารามหลวง ซึ่งทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดชนะสงคราม” เพื่อเป็นอนุสรณ์ ที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงมีชัยชนะต่อพม่าในการรบทั้ง 3 ครั้ง