พม. พร้อมย้ายเด็กออกจากสถานสงเคราะห์เอกชน ที่ จ.สมุทรสงคราม เข้าคุ้มครองด่วน

พม. พร้อมย้ายเด็กออกจากสถานสงเคราะห์เอกชน ที่ จ.สมุทรสงคราม เข้าคุ้มครองด่วน หลังรับร้องเรียนถูกทำร้ายร่างกายและใช้แรงงานเด็ก

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 เวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) พร้อมด้วย นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม

แถลงข่าวชี้แจงกรณีการช่วยเหลือและคุ้มครองเด็กตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 หลังจากได้รับการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิเส้นด้าย ว่ามีการทำร้ายร่างกายและใช้แรงงานเด็กในสถานสงเคราะห์เอกชนแห่งหนึ่งที่จังหวัดสมุทรสงคราม

นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวง พม. มีความเป็นห่วงเด็กที่ถูกดูแลไม่เหมาะสมและถูกทำร้ายร่างกายในสถานสงเคราะห์ดังกล่าว ซึ่งเราไม่นิ่งนอนใจมาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค. 65 ที่กระทรวง พม. ได้รับการประสานจากมูลนิธิเส้นด้ายจึงได้เรียกประชุมด่วนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือเด็กโดยเร็วที่สุด จากนั้นวันที่ 29 ต.ค. 65 ได้กล่าวโทษร้องทุกข์และแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรอัมพวา วันที่ 30 ต.ค. 65 ทีม One Home พม. จังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิเส้นด้ายได้เดินทางเข้าไปยังสถานสงเคราะห์ดังกล่าว เพื่อทำการคัดแยกเด็ก จำนวน 8 คน ออกมาไว้ในสถานที่ปลอดภัย ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

จากนั้น เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสงครามได้พาเด็กไปลงบันทึกประจำวัน และตรวจร่างกายเพื่อประกอบสำนวนการสืบสวน อีกทั้งทีมสอบสวน สภ.อัมพวา ได้เข้ามาสอบสวนเด็กสำหรับข้อมูลในชั้นต้น จากนั้น วันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. 65 เด็กทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนและกระบวนการประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า สถานสงเคราะห์เอกชนดังกล่าวมีเด็กที่อยู่ในความดูแลจำนวนทั้งสิ้น 55 คน และได้คัดแยกเด็ก จำนวน 8 คน ที่ถูกทำร้ายร่างกายออกมาคุ้มครองชั่วคราวและสอบข้อเท็จจริงตามกระบวนการของทีมสหวิชาชีพ ซึ่งวันนี้ จะได้นำเด็กส่วนที่เหลือทั้งหมดย้ายออกมา เพื่อให้อยู่ในสถานที่ปลอดภัยและได้รับการดูแลตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เนื่องจากเด็กอยู่ในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยแล้ว

กระทรวง พม. โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้วางแผนเตรียมความพร้อมในการรองรับเด็กและมีการประเมินภาวะช่วงอายุเด็กด้วย ส่วนการปิดสถานสงเคราะห์ดังกล่าวเป็นหน้าที่ของคณะทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามที่ต้องมีการประชุมพิจารณาร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ไม่สามารถปิดสถานสงเคราะห์ได้ในทันที

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทุกจังหวัดในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด ดังนี้ 1) ประสานงานและอาศัยกลไกของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด ติดตาม ประเมินผลและตรวจสอบการดำเนินงานเกี่ยวกับการสงเคราะห์ในรูปแบบสถานสงเคราะห์เอกชน ให้ความรู้กับผู้ได้รับใบอนุญาต รวมทั้งผู้ดูแลเด็กให้เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำ ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ให้รายงานผลต่อคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ และปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทราบ และ 2) กำกับ ดูแลและส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของสถานต่างๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบด้วย และให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในการคุ้มครองดูแลเด็กต่อไป