นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวงในหลายจังหวัด ส่งผลกระทบให้ประชาชนในพื้นที่และรอบๆ ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ให้ความช่วยเหลือทั้งกรณีเร่งด่วนและต่อเนื่องตามสถานการณ์ โดยดำเนินการตามนโยบาย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมแสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจถึงประชาชนในพื้นที่ให้สามารถผ่านวิกฤตการณ์ดังกล่าวไปได้โดยเร็ว โดยในวันที่ 28 ตุลาคม 2565 แขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 1 ได้ดำเนินการฟื้นฟูและซ่อมแซมเส้นทางที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ ทำการปะซ่อมผิวทางให้ประชาชนกลับมาสัญจรได้อย่างปกติ จำนวน 4 เส้นทาง ได้แก่
1. ทางหลวงหมายเลข 2083 ตอนหัวช้าง – สะเดา กม.16+000 – 19+500 บริเวณบ้านหนองอึ่ง – อ.ราษีไศล
2. ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอนเมืองน้อย – กันทรารมย์ กม.103+500 – 107+125
3. ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอนท่าศาลา – ละทาย บริเวณบ้านละทาย – บ้านละเจี่ย
4. ทางหลวงหมายเลข 2373 ตอนโนนสำนัก – ดอนไม้งาม กม.12+000 – 16+050 บริเวณบ้านโนนทราย – สะพานข้ามแม่น้ำมูล
พร้อมกันนี้กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2565 เวลา 12.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ศรีสะเกษ, หนองบัวลำภู, จ.มหาสารคาม, จ.กาฬสินธุ์, จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ภูเก็ต จำนวน 8 สายทาง 8 แห่ง ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 6 แห่ง ดังนี้
1.จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 35 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 15 พฤศจิกายน 2565
2.จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู – เขื่อนอุบลรัตน์ ช่วง กม.ที่ 39+500 – 42+100 ระดับน้ำ 40 – 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 15 พฤศจิกายน 2565
3.จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2391 ตอน กู่ทอง – บ้านเขื่อน ช่วง กม.ที่ 23+900 – 24+900 ระดับน้ำ 40 – 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565
4.จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 214 ตอน บ้านหลุบ – ลำชี ในพื้นที่ อ.กมลาไสย ช่วง กม.ที่ 23+200 – 24+800 ระดับน้ำ 40 – 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 23, 213, 12 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565
5.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา – บางบาล ในพื้นที่ อ.บางบาล ช่วง กม.ที่ 13+500 – 15+950 ระดับน้ำ 30 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565
6.จังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 4029 ตอน กะทู้ – ป่าตอง ในพื้นที่ อ.กะทู้ ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+005 พื้นผิวจราจรเกิดการสไลด์ตัว ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.4025, 4028 และ 4030 อยู่ระหว่างการซ่อมแซม คาดว่าผ่านได้ 10 พฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1