ผู้ว่าการรถไฟฯ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมก่อนเปิดใช้งานอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟและถนนรถไฟ ช่วงบางซื่อ-จตุจักร – วัดเสมียนนารี – ประชาชื่น และช่วงบางซื่อ – เตาปูน วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565
วันที่ 28 ตุลาคม 2565 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยและเตรียมความพร้อมของอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟและถนนรถไฟ ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับการเชื่อมโครงข่ายการจราจรรอบสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สำหรับใช้เชื่อมต่อระหว่างถนนกำแพงเพชร 2 บริเวณสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงจตุจักร กับถนนรถไฟ ช่วงบางซื่อ – จตุจักร – วัดเสมียนนารี- ประชาชื่น และช่วงบางซื่อ – เตาปูน ก่อนเปิดใช้งานในวันที่ 1 พฤศจิกายน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางมาใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และแก้ไขปัญหาการจราจรของประชาชนในพื้นที่เขตบางซื่อ
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปรับปรุงอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟและถนนรถไฟ ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับการเชื่อมโครงข่ายการจราจรรอบสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สำหรับใช้เชื่อมต่อระหว่างถนนกำแพงเพชร 2 บริเวณสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงจตุจักร กับถนนรถไฟ ช่วงบางซื่อ – จตุจักร – วัดเสมียนนารี- ประชาชื่น และช่วงบางซื่อ – เตาปูน
โดยการรถไฟฯ ได้เร่งรัดเข้าดำเนินการปรับปรุงระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบสูบน้ำภายในอุโมงค์ รวมถึงได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตบางซื่อ สำนักงานเขตจตุจักร สถานีตำรวจประชาชื่น สถานีตำรวจเตาปูน เข้าฉีดล้างทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวจราจร จัดเก็บขยะมูลฝอยจนเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว และพร้อมเปิดใช้งานตามกำหนดในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565
ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก สามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางมาใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรให้แก่ประชาชนผู้สัญจรไปมาในช่วงบางซื่อ – จตุจักร – วัดเสมียนนารี – ประชาชื่น และช่วงบางซื่อ – เตาปูน ได้เป็นอย่างดี
สำหรับอุโมงค์และถนนรถไฟดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ความดูแลรับผิดชอบของ กองบังคับการตำรวจรถไฟ สถานีตำรวจเตาปูน และ สถานีตำรวจประชาชื่น ซึ่งการรถไฟฯ ได้ประสานงาน และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีในการเข้ามาดำเนินการแก้ปัญหาการเคลื่อนย้ายรถยนต์ของประชาชนที่จอดกีดขวางการจราจรบริเวณริมถนนและทางเข้า-ออกอุโมงค์ จนสามารถเปิดใช้อุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟและถนนรถไฟได้ และขอความร่วมมือกับประชาชนไม่จอดในบริเวณที่ห้ามจอด หรือจอดรถในตำแหน่งที่กีดขวางการจราจร
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากลุ่มคนร้ายเข้ามาทำความเสียหายกับทรัพย์สินราชการในอนาคต การรถไฟฯ ได้ขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ เพื่อออกตรวจตราพื้นที่โดยรอบอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี การรถไฟฯ ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียง ช่วยสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตา ป้องกันไม่ให้บุคคลใดเข้ามาสร้างความเสียหายระบบสาธารณประโยชน์ รวมถึงช่วยกันไม่ทิ้งขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูลลงบนพื้นผิวจราจร เพื่อทำให้อุโมงค์สามารถใช้งานและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวมในระยะยาวสืบไป