สร้างคนดีสังคมสมานฉันท์ ปิดฉากโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 39

สร้างคนดีสังคมสมานฉันท์ ปิดฉากโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 39 พร้อมเสริมสร้างทักษะให้เยาวชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์

26 ตุลาคม 2565 – ปทุมธานี / พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี และประธานคณะกรรมการดำเนินการโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นประธานในพิธีปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 39 สานต่ออุดมการณ์ของ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ณ ห้องแสงเดือน-แสงเทียน พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ต.คลองห้า จ.ปทุมธานี โดยมีเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 320 คน เข้าร่วม ซึ่งโครงการฯ  ดังกล่าวจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 27 ตุลาคม 2565

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ประธานองคมนตรี และประธานคณะกรรมการดำเนินการโครงการฯ กล่าวว่า “สำหรับโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากดำริของ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยการสนับสนุนจากคณะกรรมการของมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์  มูลนิธิรักเมืองไทย และมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และบริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน)

ซึ่งได้ดำเนินการมาถึงรุ่นที่ 39 โดยนำเยาวชนมุสลิมจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน และมาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์จำนวน 160 ครอบครัว แม้อาจเป็นระยะเวลาไม่นานแต่นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เยาวชนจะได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า ได้รู้จักเสียสละ เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน โดยสามารถนำมาต่อยอดและพัฒนาตนเอง พัฒนาชีวิตครอบครัว และพัฒนาสังคมในชุมชนให้มีคุณภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความสงบร่มเย็น ตามอุดมการณ์ของ ฯพณฯ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ที่สำคัญโครงการฯ นี้ จะมีส่วนสำคัญที่ช่วยส่วนผลักดันความสำเร็จให้แก่เยาวชนได้เป็นคนเก่งและคนดีของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชน นำไปสู่การสร้างรากฐานให้เยาวชนสามารถนำไปต่อยอดการเรียนรู้และเป็นบุคลากรที่มีศักยภาพได้ในอนาคต ”

ดร.กมล รอดคล้าย กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการดำเนินการโครงการฯ กล่าวว่า “กิจกรรมโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 39 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 27 ตุลาคม 2565   โดยนำเยาวชนจากชายแดนภาคใต้ที่นับถือศาสนาอิสลาม จำนวน 272 คน และเยาวชนที่นับถือศาสนาพุทธ จำนวน 47 คน และเยาวชนนับถือศาสนาคริสต์ จำนวน 1 คน รวมทั้งสิ้น 320 คน มาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์จำนวน 160 ครอบครัว ที่นับถือศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมชนสังคมพหุวัฒนธรรมในภาคกลาง และทำให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ตรง และมีความรู้ ความเข้าใจ บริบทของสังคมประเทศไทยมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การพัฒนาพื้นที่ของชายแดนภาคใต้ต่อไป”

นายสุวรงค์ วงษ์ศิริ รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า “โครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ อพวช. ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ผ่านกิจกรรม ค่าย “เปิดโลกการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สานใจไทย สู่ใจใต้” โดยมีเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล มาเข้าร่วมกิจกรรมค่ายฯ  ในระหว่างวันที่ 23-27 ตุลาคม 2565 ณ อพวช. ต.คลองห้า จ.ปทุมธานี

เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนพัฒนากระบวนการคิดด้านวิทยาศาสตร์ แก้ปัญหาและสร้างนวัตกรรมตามหลักการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาอย่างสร้างสรรค์ ทั้งนี้ ทาง อพวช. ขอขอบคุณโครงการฯ ที่ให้ความไว้วางใจ อพวช. ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ โดยเราจะมุ่งมั่นพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมวิทยาศาสตร์ต่อไป เพื่อให้เยาวชนและประชาชนมีกระบวนการคิดด้วยหลักการและเหตุผล อันก่อให้เกิดความเข้าใจ ความสามัคคี และยั่งยืนต่อไป”

ทั้งนี้ เยาวชน จำนวน 320 คน จะเดินทางกลับภูมิลำเนาถึงสนามบิน จ.สงขลา และจ.นราธิวาส ในวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ต่อไป