ศาลสั่งฟัน 184 คดี ผู้กระทำความผิดออนไลน์ สั่งปิด มากกว่า 4,700 URLs ด้าน ดีอีเอส ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนผ่านสื่อออนไลน์
วันที่ 26 ตุลาคม 2565 นายชัยวุฒิ ธนาคมนุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวในการเป็นประธานการประชุมการแก้ปัญหาฉ้อโกงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI ) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ดีอีเอส จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อหาแนวทางเร่งรัดและแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการหลอกลวงทางการเงิน ใน 5 ด้าน ได้แก่
1. แก๊ง Call Center
2. แชร์ลูกโซ่-ระดมทุนออนไลน์
3. การพนันออนไลน์
4. บัญชีม้า
5. การหลอกหลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์
โดยคนร้ายมีการปรับรูปแบบและวิธีการหลอกหลวงประชาชน จนมีเหยื่อหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก
พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ มีการกระทำความผิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ การหลอกลงทุน การระดมทุนออนไลน์ การพนันออนไลน์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เฝ้าติดตามและจับกุมผู้กระทำผิดเพื่อลดการกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง จากสถิติผู้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ปี พ.ศ. 2565 นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 จนถึง วันที่ 24 ตุลาคม 2565 ศาลมีคำสั่งลงโทษผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวม 184 คำสั่ง มี URLs ที่ผิดกฎหมายจำนวน 4,736 URLs
นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า จากจำนวนการกระทำความผิดและการละเมิดกฎหมายข้างต้น ดีอีเอส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีแผนที่จะจัดทำรายงานเพื่อนำเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ทั้ง 5 เรื่อง และจะนำเสนอมาตรการแก้ปัญหา และการบูรณาการหน่วยงานร่วมขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาทั้ง 5 เรื่องที่กล่าวมา อาทิ การปรับปรุงพัฒนากฎหมาย กฎระเบียบ พร้อมทั้งเร่งจัดการการโฆษณาให้ผลตอบแทน/ผลประโยชน์เกินจริง การนำเข้าข้อมูลเป็นเท็จทาง social media อย่างผิดกฎหมาย หรือการ นำรูปคนมีชื่อเสียงไปหลอกลวงทาง social media อย่างผิด กม. เป็นต้น
“ดีอีเอส จะมีการพิจารณาในการเพิ่มบุคลากรดำเนินการ เพื่อให้การทำงานในการปราบปรามการกระทำผิดมีความคล่องตัวมากขึ้น รวมถึงการบูรณาการข้อมูลสำหรับประชาชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งสังคมและประชาชน และสร้างเครือข่ายประชาสังคมต้านภัยออนไลน์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อช่วยให้การกระทำความผิดผ่านระบบออนไลน์ลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันประชาชนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ” รัฐมนตรีดีอีเอส กล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนหรือผู้ที่มีข้อมูลเว็บผิดกฎหมาย สามารถแจ้งกับกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ที่ GCC 1111 และ 1212 หรือ https://facebook.com/DESMonitor เพจอาสาจับตาออนไลน์ หรือ แจ้งความออนไลน์ได้ตลอด24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ https://thaipoliceonline.com
อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่แนะนำการลงทุน ผู้ประกอบธุรกิจ หรือหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้ที่ SEC Check First และสามารถตรวจสอบผู้ได้รับใบอนุญาตหรือใบขึ้นทะเบียนให้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ที่ BOT License Check