ศูนย์ส่งเสริมฯ ภาค 3 กสอ. จับมือ สถาบันอาหาร  อวดโฉม 20 ผลิตภัณฑ์อาหารนวัตกรรม ทดสอบตลาดในงาน THAIFEX -World of Food Asia 2019

 

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 3 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) ร่วมกับ สถาบันอาหาร  กระทรวงอุตสาหกรรม  ผลักดันผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปและเกษตรแปรรูปจาก 4 จังหวัดภาคเหนือ พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี และกำแพงเพชร ยกระดับมาตรฐานการผลิตด้วยนวัตกรรม  ภายใต้โครงการเสริมสร้างนวัตกรรมการผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร(Northern Thailand Food Valley to Smart Industry 4.0) ประจำปีงบประมาณ 2562 พร้อมอวดโฉม 20 ผลิตภัณฑ์อาหารนวัตกรรม ประเภทอาหารมูลค่าสูง และอาหารสำหรับผู้สูงอายุ ลงสนามทดสอบตลาดในงาน  THAIFEX -World of Food Asia 2019 ระหว่างวันที่ 28 พ.ค. –  1 มิ.ย. 62 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 5 บริเวณบูธสถาบันอาหาร    

นางเฉลา  ศรีเพ็ชร์  ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้มอบหมายได้สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินโครงการเสริมสร้างนวัตกรรมการผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร (Northern Thailand Food Valley to Smart Industry 4.0) ประจำปีงบประมาณ 2562 เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหาร แปรรูปและเกษตรแปรรูปของภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี และกำแพงเพชร ทั้งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ SMEs และพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดให้แก่ผลิตภัณฑ์ เกิดการยอมรับในตลาดสากลรวม 20 ผลิตภัณฑ์ จาก 20 กิจการ แบ่งเป็นการเสริมสร้างนวัตกรรมการผลิตให้แก่ผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในตลาดระดับสากลจำนวน 12 ผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับผู้สูงอายุด้วยนวัตกรรมใหม่(Food Innovation for Anti-Aging) จำนวน 8 ผลิตภัณฑ์ ให้ได้รับการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ และจัดทำผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ต้นแบบจำนวน 1 ผลิตภัณฑ์ต่อ 1 กิจการ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และผลักดันเข้าสู่ตลาดในประเทศและต่างประเทศในโอกาสต่อไป

“ในภาพรวมของโครงการฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาทั้ง 2 รูปแบบ  เกิดมูลค่าการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นจากการขยายการลงทุน  เกิดมูลค่าการส่งออก  เกิดมูลค่าการลดต้นทุน หรือของเสียจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเกิดมูลค่าการลงทุนในเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ในระดับที่น่าพอใจ”

นายยงวุฒิ  เสาวพฤกษ์  ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า  ที่ผ่านมาได้คัดเลือกผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมโครงการ โดยต้องเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์แปรรูปเกษตรด้วยนวัตกรรมและมีความคิดสร้างสรรค์ หรือเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยวหรือเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารผู้สูงอายุด้วยนวัตกรรมใหม่ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาจากความเป็นไปได้ของกระบวนการผลิต ความพร้อมด้านสถานที่ผลิต เทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากร เป็นต้น

ทางสถาบันอาหาร ได้จัดส่งทีมที่ปรึกษาเข้าไปให้คำแนะนำเชิงลึกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงการค้นคว้า ทดลอง และทดสอบในห้องปฏิบัติการ จัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้ข้อมูลการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ในสถานประกอบการทั้ง 20 กิจการ จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ(Workshop)  จัดทำผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ต้นแบบ 1 ผลิตภัณฑ์ต่อ 1 กิจการรวม 20 ผลิตภัณฑ์ จัดกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการอาหาร และจัดกิจกรรมทดสอบตลาดและเจรจาจับคู่ธุรกิจสู่ตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ THAIFEX -World of Food Asia 2019 ระหว่างวันที่ 28 พ.ค. – 1 มิ.ย. 62 ณ   อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 5 บูธสถาบันอาหาร

“การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการนำ 20 ผลิตภัณฑ์ที่ได้ผ่านการพัฒนาด้วยนวัตกรรมมาร่วมทดสอบตลาด พบปะแลกเปลี่ยนกับผู้บริโภค และผู้นำเข้าจากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างโอกาสการส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในเขตจังหวัดภาคเหนือ ที่เป็นไฮไลท์และได้จัดทำผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์เสร็จสมบูรณ์ อาทิ ถั่วตั่วโกว ขนม 7 ธัญพืช หรือธัญพืชสูตรโบราณ ใช้เทคโนโลยี Heat Technology and Freezing เก็บรักษาแบบแช่เยือกแข็ง  มีทั้งสูตรธัญพืชเต็มเมล็ด สำหรับผู้สูงอายุที่ยังสามารถบดเคี้ยวได้  และสูตรบดละเอียด สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาการบดเคี้ยว เครื่องดื่มมะนาวอัญชันผง ใช้เทคโนโลยี Concentration and Drying Technology ละลายง่าย  สามารถเก็บไว้ได้นาน 6 เดือนที่อุณหภูมิปกติ ขนมปังสังขยา ใช้เทคโนโลยี Formulation and Freezing Technology พัฒนาให้สามารถมีอายุการจัดเก็บยาวนานขึ้น โดยไม่มีการเติมสารเคมีอาหารหรือสารกันบูดใดๆ  เฉาก๊วยหนึบหนับ(Gummy Glass Jelly)ช้เทคโนโลยี Drying Technology คงคุณค่าสมุนไพรฤทธิ์เย็น  ไม่มีส่วนผสมของเจลาติน และคางกุ้งกรอบรสไข่เค็ม ใช้เทคโนโลยี Frying, Drying and Mixing Technology เป็นต้น”