การรถไฟฯ ร่วมกับ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดกิจกรรม “รถไฟไทย ใครๆ ก็เที่ยวได้” แบ่งปันความสุขให้แก่น้องๆ โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดกิจกรรม “รถไฟไทย ใครๆ ก็เที่ยวได้” นำคณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ นั่งรถไฟ สัมผัสธรรมชาติ เส้นทางกรุงเทพ – กาญจนบุรี เพื่อส่งเสริมการศึกษานอกห้องเรียน ผ่านการเดินทางด้วยรถไฟ โดยมีนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารการรถไฟฯ และคณะผู้บริหารจากมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เข้าร่วมกิจกรรม
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ความร่วมมือในการจัดกิจกรรม “รถไฟไทย ใครๆ ก็เที่ยวได้” เกิดขึ้นมาจากแนวคิดของ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ที่ต้องการนำบริการของการรถไฟฯ เข้าไปมีส่วนช่วยดูแลรับผิดชอบต่อสังคม และส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยทุกคน ได้มีโอกาสเข้าถึงการใช้บริการรถไฟได้อย่างเท่าเทียมกัน
โดยในกิจกรรมครั้งนี้ ได้มีการพาน้องๆ นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเห็น จากโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ จำนวน 117 คน นั่งรถไฟไปสัมผัสธรรมชาติและร่วมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในเส้นทางกรุงเทพ – กาญจนบุรี ภายใต้แนวคิด การปลูกฝังให้น้องๆได้เรียนรู้ในเรื่อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เพื่อยกระดับการศึกษา พัฒนาทักษะ ด้วยการเรียนรู้นอกสถานที่
“กิจกรรมครั้งนี้ การรถไฟฯ ได้จัดขึ้นเพื่อต้องการมอบความสุขให้แก่เด็กและเยาวชนผู้ที่มีความบกพร่องทางการเห็น ได้มีประสบการณ์ในการเดินทางท่องเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ และสิ่งรอบตัว ผ่านการนั่งรถไฟ ซึ่งจะช่วยให้รู้จักกับสถานีรถไฟ ตู้โดยสาร ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีประวัติที่น่าสนใจ ด้วยการเริ่มต้นจากการพาน้องๆ เยี่ยมชมสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) แลนด์มาร์คที่สำคัญของประเทศ ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราววิถีชีวิตคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม สะพานข้ามแม่น้ำแคว ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และสะพานสกายวอล์ก ริมแม่น้ำแควใหญ่ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี
นายเอกรัช กล่าวต่อว่า การนำคณะเดินทางด้วยรถไฟครั้งนี้ ทำให้เด็กและเยาวชนที่มีความบกพร่องทางการเห็นได้มีโอกาสออกไปเรียนรู้โลกกว้าง เสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตจากโลกภายนอก ตลอดจนช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ความเชื่อมั่น และการเห็นคุณค่าในตัวเอง ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ คุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมย์ของการรถไฟฯ ที่มีความห่วงใยและมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิต และบริการเดินทางขนส่งทางรางที่ดีแก่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน