ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในที่ประชุมในระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 72 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ว่า ปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กว่า 45 ปี คือ “ความไว้เนื้อเชื่อใจ” ระหว่างภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งส่งผลต่อการยอมรับของประชาชนต่อระบบบริการและลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการต่างๆ อีกทั้งความไว้เนื้อเชื่อใจนี้ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพและความเท่าเทียมในการให้บริการทางสุขภาพ ซึ่งหากปราศจากสิ่งนี้แล้ว ย่อมส่งผลให้เกิดการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่เกินความจำเป็น การฟ้องร้องที่เพิ่มสูงขึ้นและการใช้ประโยชน์จากระบบบริการลดลง โดยความไว้เนื้อเชื่อใจนี้ประกอบไปด้วยความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ความไว้วางใจในการให้บริการที่มีคุณภาพ และเกิดความใกล้ชิดระหว่างประชาชนและบุคลากรด้านสุขภาพ โดยลดการคิดถึงผลประโยชน์ส่วนตน ตามคำสอนของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย) “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง”
ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสามารถสร้างและรักษา “ความไว้เนื้อเชื่อใจ” ให้คงไว้ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ ช่วยให้ประสบความสำเร็จภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านี้ให้ยั่งยืน ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกลกล่าว