สช. จับมือ 7 องค์กร ร่วมสานพลังดูแลสุขภาพพระภิกษุ สามเณรน้อย กว่า 34,000 รูป ในโรงเรียนพระ กว่า 407 แห่งทั่วประเทศ

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) นำโดย นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการฯ จับมือ 7 องค์กรด้านสุขภาพและคณะสงฆ์ อาทิ สำนักงานการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.), มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร), มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร), กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ สานพลัง “ขับเคลื่อนสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา” เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ณ หอประชุมรัชมังคลาจารย์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

การลงนามดังกล่าว เป็นการสานพลังขับเคลื่อนสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา” ของ 8 หน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมกับพระสงฆ์ สามเณร บุคลากรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ชุมชน และสังคม ในการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม โดยมี พระราชวัชราภรณ์ ประธานกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา เป็นประธานพิธีลงนามฯ พร้อมด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย

ระเทพเวที,รศ.ดร.รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร), พระเทพวัชรเมธี, ผศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รองผู้จัดการสำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดย นพ. อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นผู้แทนลงนามครั้งนี้

โดยมีคณะสงฆ์ที่รักษาการประธานเขตการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาเขต 1-14 ผู้บริหารและนักวิชาการ โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนา กรมอนามัย สสส. สปสช. สช. และคณะทำงานขับเคลื่อนฯ โดยพระมหาประยูร โชติวโร พระมหาวิจิตร กลฺยาณ ร่วมเป็นสักขีพยาน

การลงนามมีเป้าหมาย เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของภาคี ในการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ เชื่อมโยงความร่วมมือและบูรณาการองค์ความรู้ ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพบนพื้นฐานการสร้างประโยชน์สุขภาพต่อโรงเรียนพระปริยัติธรรม ชุมชน และสังคม เกิดการประเมินผลการขับเคลื่อนธรรมนูญโรงเรียนพระปริยัติธรรม อย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การสร้างองค์กรสุขภาวะอย่างยั่งยืนตามหลัก “บวร”

พระราชวัชราภรณ์ ประธานการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กล่าวว่า ในโรงเรียนพระปริยัติธรรม ทั่วประเทศมีพระสงฆ์และสามเณรที่ศึกษาเล่าเรียนอยู่ประมาณ 34,000 รูป ส่วนหนึ่งมาจากครอบครัวที่ขาดโอกาสด้านการศึกษาในภาคปกติ ซึ่งวัดให้การอุปถัมภ์ดูแลพระสงฆ์และสามเณรเหล่านี้ โดยบางรูปเริ่มมีสุขภาพไม่ดี เป็นโรคอ้วนจากการฉันอาหารที่มาจากญาติโยมนำมาถวาย หรือจากการประกอบอาหารของแม่ครัวของวัดเอง การทำบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการทำงาน ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ที่เห็นความสำคัญของสุขภาพพระสงฆ์ สามเณรในโรงเรียนปริยัติธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การมีสุขภาพหรือสุขภาวะที่ดีของพระสงฆ์และสามเณรในโรงเรียนต่อไป

นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เปิดเผยว่า ข้อตกลงดังกล่าว จะมุ่งสานพลังภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหาสุขภาวะพระสงฆ์ โดยเฉพาะสามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม ที่มีภาวะโภชนาการเกิน ขาดความเอาใจใส่สุขอนามัยส่วนบุคคล และองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพของตนเอง “ความร่วมมือครั้งนี้ มุ่งสร้างความตระหนักถึงปัญหา และแนวโน้มที่ผลกระทบส่งผลต่อสุขภาวะ เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพในโรงเรียนพระปริยัติธรรมให้มีสุขภาวะที่ดีและยั่งยืนต่อไป”

นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้เพื่อต้องการให้สุขภาพของพระสงฆ์และสามเณร ในโรงเรียนพระปริยัติธรรม 407 แห่งทั่วประเทศ มีสุขภาพที่ดี ซึ่งสามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม เป็นเหมือนต้นกล้าในการสืบทอดทางศาสนา และเมื่อลาสิกขาก็จะเป็นกำลังสำคัญในการนำหลักธรรมไปปฏิบัติ สร้างสังคมที่เป็นสุข โดยการดำเนินงานจะจัดทำธรรมนูญเชิงนโยบายเป็นกรอบสำคัญของการทำธรรมนูญสุขภาพของแต่ละโรงเรียน ในการดูแลสุขภาวะของภิกษุ สามเณรต่อไป ทั้งนี้ ทาง พศ. ยินดีสนับสนุน ส่งเสริม และร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายประสานขอความร่วมมือผู้เกี่ยวข้องในการส่งเสริม และพัฒนาการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ตลอดถึงการร่วมมือในการแก้ปัญหาสุขภาวะพระสงฆ์ สามเณร ชุมชน และสังคม ให้มีสุขภาวะที่ดี ยั่งยืนต่อไป

พระเทพเวที,รศ.ดร. รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มจร. กล่าวว่าภาคีเครือข่ายทั้ง 8 หน่วยงานมีเจตนารมณ์ดี ที่ต้องการให้โรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้ง 407 โรงทั่วประเทศ เกิดสุขภาวะที่ดีส่งเสริมศาสนทายาท ให้มีสุขภาพกาย สุขภาพใจดี โดยข้อตกลงดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้พระสงฆ์ สามเณร และบุคลากรโรงเรียนพระปริยัติธรรมฯ ได้รับการดูแลสุขภาพ/การส่งเสริมสุขภาพ โดยใช้ธรรมนูญสุขภาพฯ เป็นกรอบการสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรมฯ ร่วมกับชุมชน และสังคม

พระเทพวัชรเมธี, ผศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร), กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าว จะเป็นกรอบหลักในการดูแลสุขภาวะทางกายของพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ที่มีญาติโยมเป็นผู้อุปถัมภ์เพราะพระไม่สามารถเลือกฉันได้ โดยญาติโยมเหล่านี้มีส่วนช่วยส่งเสริม สนับสนุนด้านสุขภาพกาย ใจ ให้มีกำลังที่ดีในการเล่าเรียนศึกษา ซึ่งทาง มจร. และ มมร. ยินดีสนับสนุนนโยบาย ดังกล่าว

นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมอนามัยร่วมขับเคลื่อนประด็นสุขภาพของพระภิกษุ และสามเณร ผ่านงานของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สสจ. ทั่วประเทศ มีศูนย์อนามัย 13 เขต ที่ดูแลพระภิกษุ และสามเณร โดยเฉพาะโครงการดูแลพระภิกษุ สามเณรในโรงเรียนที่สำคัญ ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคเหนือและภาคอีสาน 69 โรง เพราะกลุ่มนี้อาจจะไม่ได้มีปัญหาด้านโภชนาการเกิน เหมือนกับโรงเรียนในเขตเมือง แต่มีปัญหาภาวะโภชนาการขาด เช่น เตี้ย ผอม และสุขอนามัยส่วนบุคล

ที่ผ่านมากรมอนามัยมีโครงการสนับสนุนทางวิชาการ และผลิตสื่อต่างๆ อยู่จำนวนมากในการเฝ้าระวังตนเอง เช่น สมุดบันทึกสุขภาพพระสงฆ์ สามเณร, คู่มือสถานที่จำวัดสำหรับพระภิกษุสามเณร โรงเรียนพระปริยัติธรรม,การกำจัดขยะ ที่อยู่อาศัย และช่วงโควิดที่ผ่านมา มีการออกแนวทางปฏิบัติรับมือโควิด-19 ทั้งนี้ กรมอนามัยยินดีสนับสนุน และถือเป็นภาระกิจสำคัญในการสนับสนุนองค์ความรู้ สำหรับพระสงฆ์ สามเณร และจะใช้เครือข่ายที่มีในการส่งเสริมสุขภาพพระภิกษุ สามเณร ในโรงเรียนพระปริยัติธรรม ต่อไป

ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รองผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เผยว่า จากการสำรวจสุขภาพสามเณรทั่วประเทศ พบสามเณรมีภาวะโภชนาการเกิน (ท้วม เริ่มอ้วน และอ้วน) 22% มากกว่าเด็กชายไทยที่มีภาวะโภชนาการเกินอยู่ที่ 18% ซึ่งสสส. ร่วมกับ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาและภาคีเครือข่าย ริเริ่มโครงการการพัฒนาสื่อโภชนาการสามเณรสมวัย พัฒนานวัตกรรมสื่อองค์ความรู้ แนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการฉันอาหารของสามเณรที่เสริมสร้างสุขภาพที่ดี นำไปสู่การเป็นแกนนำความรู้ในการดูแลสุขภาวะเผยแพร่แก่ชุมชนและสังคมในวงกว้าง

การจัดทำ MOU ความร่วมมือกับภาคีทั้ง 7 องค์กร จะช่วยตอบโจทย์สุขภาวะของพระสงฆ สามเณรได้ตรงจุด เชื่อว่าหากต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนต้องเชื่อมประสานกันอย่างมีพลังทั้ง ความรู้ นโยบาย และการปฏิบัติ วันนี้การ MOU จะเป็นสะพานเชื่อมในเชิงนโยบายร่วมกัน สสส. จะช่วยเสริมการขับเคลื่อนภาคปฏิบัติการในระดับพื้นที่ สนับสนุนองค์ความรู้ สร้างต้นแบบความรู้ในพื้นที่ ที่เหมาะสมแต่ละพื้นที่ และขับเคลื่อนเชิงนโยบายร่วมกัน

นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เปิดเผยว่า สปสช. ยินดีสนับสนุนข้อมูลองค์ความรู้เรื่องสิทธิหลักประกันสุขภาพ (สิทธิบัตรทอง) และความรู้ความเข้าใจ เรื่องกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กองทุน กปท.) ของพระภิกษุ สามเณร ในโรงเรียนพระปริยัติธรรมฯ ที่มีอยู่ทั่วประเทศจำนวน 407 แห่ง เพื่อทำให้พระสงฆ์ สามเณร ได้เข้าถึงข้อมูล สิทธิสุขภาพ การเข้าถึงบริการสิทธิสุขภาพพื้นฐาน

ตลอดจนรับรู้ข้อมูลเรื่องกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น หรือ กองทุน กปท. ซึ่งจะเป็นงบประมาณที่จะช่วยสนับสนุนในการดำเนินการดูแลสุขภาพของพระภิกษุ สามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรมฯ ในแต่ละพื้นที่ และสนับสนุนให้องค์กรชุมชน ประชาชน ภาคเอกชน หน่วยงานในพื้นที่ เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่ตอบสนองต่อความต้องการของพื้นที่ ชุมชน