จากกรณีที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวภายหลังการเปิดประเทศ เย็นวันที่ 17 สิงหาคม 2565 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) จึงนำคณะผู้บริหารกระทรวงฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณถนนข้าวสาร เพื่อพบปะสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงการติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวโดยหารือพูดคุยกับผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “ผมอยากย้ำในแนวคิดเรื่องมาตรการขยายเวลาปิดสถานบริการจาก ตี 2 ไป ตี 4 ว่าเราไม่ได้ต้องการปูพรมทำทั่วประเทศ แต่จะจัดโซนนิ่งเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติเท่านั้น และก่อนจะดำเนินการในเรื่องนี้ เราได้วางแผนที่จะให้มีการทำ workshop ร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลมาประกอบการพิจารณาว่าจะมีผลดีและผลเสียอย่างไรบ้าง
ผมขอยืนยันว่า สิ่งที่ผมคำนึงถึงที่สุดคือมาตรการดังกล่าวจะต้องไม่กระทบต่อศีลธรรมอันดีของประเทศ ต่อเยาวชน และประชาชนทั่วไป จะต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองไม่ให้ได้รับผลกระทบที่ไม่ดีจากมาตรการดังกล่าว ความสงบเรียบร้อยของประเทศและการมีสังคมที่ดีเป็นสิ่งที่ผมคำนึงถึงตลอดและเป็นอันดับแรกครับ ในเรื่องนี้ ผมเปิดกว้างในทุกความเห็น อยากให้เราได้คุยและหารือกัน หามาตรการใหม่ๆ ด้วยกัน ร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัย สะอาด ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือทุกคนได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกันครับ…”
รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าเป็นแนวคิดที่ต้องการนำมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศไทยมีการชะลอตัวจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาทางกระทรวงฯ ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการศึกษาวิเคราะห์ถึงผลดีผลเสียมาระดับหนึ่ง วันนี้ก็ยังอยากที่จะรับฟังเสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จากผู้ประกอบการในพื้นที่ถนนข้าวสารแห่งนี้ว่ามีความคิดเห็นกันเช่นไร. จากนั้นจะนำเสนอ ไปทาง ศบค, เพื่อพิจารณาและดำเนินการตามกระบวนการต่อไป
อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณเสียงสะท้อนจากหลายๆ ฝ่าย ตลอดถึงกลุ่มเครือข่ายต่างๆ ที่มีการนำเสนอแนวคิดที่หลากหลายออกมา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายินดี รับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่ายและนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเพราะเราต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยมีความเข้มแข็งและยั่งยืน