วันที่ 16 พฤษภาคม 2562 ศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลอง พระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ปีงบประมาณ 2562 ภาคลาง : เขตสุขภาพที่ 4, 5 และ 6 จังหวัดสระแก้ว” ณ ห้องประชุมโรงแรมเดอะเวโล โฮเทลแอนด์ บีเอ็มเอกซ์ ปั้มแทรค อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า โครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ได้ดำเนินการสำรวจพัฒนาการเด็กปฐมวัย ในช่วงปี 2542 – 2557 พบกลุ่มเด็กที่มีข้อสงสัยล่าช้าด้านพัฒนาการมีแนวโน้มที่สูงถึงประมาณ ร้อยละ 30 โดยเฉพาะด้านการใช้ภาษา รองลงมาคือการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งทักษะทั้งสองด้านเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาสมองและจะส่งผลต่อการเรียนรู้ และจากการดำเนินงานโครงการฯ ในกรอบระยะเวลา 3 ปี (2558 – 2561) ที่ผ่านมา ได้เน้นย้ำสื่อสารความรู้ สร้างกระแส สร้างความตระหนักให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็กและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นถึงความสำคัญในการคัดกรอง ส่งเสริม ค้นหาและติดตามดูแลเด็ก ทั้งเด็กปกติและเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีพัฒนาการสงสัยล่าช้าให้ได้รับการดูแลแบบครบวงจร พร้อมทั้งขับเคลื่อนการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนผ่านกลไกสำคัญ ได้แก่ คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการ ฯ คณะอนุกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัด คณะกรรมการMCH ทีมกุมารแพทย์พัฒนาการเด็ก (DBP : Developmental and Behavioral Pediatrician) และผู้รับผิดชอบแผนงานกลุ่มวัยสตรีและเด็กระดับจังหวัด(Child Project Manager : CPM) ส่งผลให้ค่าเป้าหมายที่กระทรวงสาธารณสุขซึ่งติดตามการดำเนินงาน ทั้งความครอบคลุม สงสัยล่าช้า ติดตามช่วยเหลือส่งต่อด้านพัฒนาการ เด็กปฐมวัยมีแนวโน้มดีขึ้น
“ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานแม้ว่ามีแนวโน้มดีขึ้น แต่การส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้สัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ยังต้องอาศัยการประสานความร่วมมือกันจากทุกภาคส่วนของสังคม โดยเน้นให้ครอบครัวเป็นแกนหลักในการพัฒนาเด็ก และให้ชุมชนและสังคมเป็นฐานที่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการพัฒนาเลี้ยงดูเด็กทุกขั้นตอน ให้มีคุณภาพทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เติบโตขึ้นเป็นคนไทยที่พึงประสงค์เพื่อเป็นทั้งคนดี คนเก่ง มีความสุข และเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศชาติ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว