วันที่ (14 พฤษภาคม 2562) ที่ห้องอบรมคนหางานก่อนไปทำงานต่างประเทศ ชั้น 11 อาคารสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 เขตดินแดง กรุงเทพฯ นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัตน์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน มอบเงินสนับสนุนเพื่อการประกอบอาชีพ พร้อมให้โอวาทแก่ผู้สำเร็จการฝึกปฏิบัติงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น (IM JAPAN) จำนวน 94 คน เงินสนับสนุนเพื่อการประกอบอาชีพจำนวน 16,003,242 บาท นอกจากนี้ยังมีการมอบใบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สำเร็จการฝึกฯ โดยมี นายมะซะฟูมิ โนะมิยะมะ ผู้จัดการทั่วไป IM JAPAN สำนักงานกรุงเทพฯ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัตน์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การจัดส่งแรงงานไทยไปฝึกงานประเทศญี่ปุ่น โดยผ่านองค์กรพัฒนาแรงงานระดับนานาชาติประเทศญี่ปุ่น หรือ IM JAPAN เป็นความร่วมมือระหว่างกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กับ IM ประเทศญี่ปุ่น ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 จนถึงปัจจุบัน โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับการออกพระราชบัญญัติการฝึกงานด้านเทคนิคชาวต่างชาติและคุ้มครองผู้ฝึกงานด้านเทคนิคจนมีการลงนามล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560
ซึ่งในวันนี้เป็นการมอบประกาศนียบัตร และเงินสนับสนุนเพื่อการประกอบอาชีพแก่ผู้สำเร็จการฝึกปฏิบัติงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น จำนวนทั้งสิ้น 94 คน เป็นผู้ฝึกปฏิบัติงานฯ ครบ 3 ปี ได้รับเงินคนละ 600,000 เยน รวมเป็นเงินสนับสนุนฯ ทั้งสิ้นจำนวน 15,990,843.53 บาท โดยในวันนี้ ผู้สำเร็จการฝึกฯ ยังได้เข้าสัมภาษณ์งานกับสถานประกอบการที่เป็นสมาชิก IM Japan จำนวน 12 บริษัท เช่น บริษัท AICHI ALPS AUTOLEATHER CO.,LTD. บริษัท MITSUI SEIKI (THAILAND) CO.,LTD. บริษัท Kobayashi Autoparts (Thailand) Co.,Ltd. เป็นต้น ซึ่ง IM Japan จะติดตามและแจ้งผลการมีงานทำของผู้สำเร็จการฝึกฯ ต่อไป
ตั้งแต่ปี 2543 ถึงปัจจุบันได้มีการจัดส่งผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น IM Japan ไปแล้วจำนวน 4,829 คน ขณะนี้ยังคงอยู่ฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 1,060 คน สำเร็จการฝึกงาน 3 ปี 2 ปี และ 1 ปี ซึ่งเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว จำนวน 3,221 คน ในปี 2562 มีเป้าหมายจัดส่งแรงงานไปฝึกปฏิบัติงานฯ จำนวน 500 คน โดยในปี 2562 จัดส่งไปแล้ว 5 รุ่น เป็นจำนวน 197 คน
รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สำเร็จการฝึกปฏิบัติงานเทคนิคทุกคนถือว่าเป็นผู้มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงของชาติ เพราะความรู้ ประสบการณ์และทักษะต่างๆ รวมทั้งระเบียบวินัยที่ได้รับจากการฝึกปฏิบัติงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่นที่เข้มงวด จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานในสถานประกอบการให้เกิดประสิทธิภาพ และช่วยขับเคลื่อนให้สถานประกอบการ หรือธุรกิจส่วนตัวดำเนินไปอย่างประสบผลสำเร็จได้ และขอให้นำเงินสนับสนุนการประกอบอาชีพที่ได้รับในวันนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า และต่อยอดเพื่อพัฒนาอาชีพต่อไป ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ครอบครัว และชุมชน เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศสืบไป