วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2562 เวลา 08.30 น. ณ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพมหานครนางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (อพส.) เป็นประธานเปิด โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำต้นแบบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (DSDW Pioneer Leadership) รุ่นที่ 2 โดยมี นางสาวสนธยา บุณยภูษิต เลขานุการกรม กล่าวรายงาน
นางนภา กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศนโยบายในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็น “ประเทศไทย 4.0” เพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ไปสู่ “Value–Based Economy” หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบ “ทำน้อยได้มาก” โดย การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม และบริการ ซึ่ง สำนักงาน ก.พ. ได้มุ่งหวังให้ข้าราชการไทยพัฒนาสู่การเป็นข้าราชการ 4.0 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ มีหน่วยงานในสังกัดอยู่ในส่วนภูมิภาค ทั่วประเทศ โดยหัวหน้าหน่วยงานนั้น เป็นบุคลากรที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของกรมฯ ให้บรรลุวิสัยทัศน์และเป้าหมาย ถือเป็นฟันเฟืองหลักในการบริหารจัดการองค์กรและหน่วยงานในส่วนภูมิภาคให้เป็นไปตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแนวทางที่กรมฯ ได้วางไว้ ทั้งยังเป็นผู้ที่ต้องให้การดูแลประชาชนกลุ่มเป้าหมายทั้งในรูปแบบสถาบันและในชุมชน จึงจำเป็นต้องมีศักยภาพรอบด้าน ทั้งเรื่องของ กฎระเบียบ คุณธรรม จริยธรรม ความคิดสร้างสรรค์และการสรรสร้างนวัตกรรมทางสังคม รวมไปถึงการเสริมสร้างบุคลิกภาพที่เหมาะสมและส่งเสริมภาวะความเป็นผู้นำ
นางนภา กล่าวต่อไปว่า กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จึงได้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำต้นแบบ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (DSDW Pioneer Leadership) รุ่นที่ 2 เพื่อเป็นการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้เข้าใจในด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นและสำคัญกับงาน บทบาทหน้าที่ ตลอดจนมาตรฐานและขอบเขตงาน ที่รับผิดชอบ สามารถสอนงานผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนให้คำแนะนำในการปรับปรุงและพัฒนา สามารถเสริมสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างบุคคล สร้างบรรยากาศ การทำงานเป็นทีม และสามารถเป็นแบบอย่างให้แก่บุคลากรได้อย่าง SMART เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อบุคลากร และประชาชน มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้นจำนวน 50 คน ในโอกาสนี้ อพส. ได้มอบนโยบายในการขับเคลื่อนงานในการเป็นผู้นำต้นแบบ ดังนี้ 1) การทำงานต้องมีการสื่อสารแบบสองทาง 2) ต้องมีการพัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างต่อเนื่อง 3) การทำงานต้องเน้นความถูกต้อง ตามระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมาย 4) การทำงานต้องมีการวางแผนควบคู่การทำงานตามยุทธศาสตร์ และท้ายสุด การทำงานต้องมีความทุ่มเท ทั้งแรงกาย แรงใจ การทำงานเป็นทีม และสิ่งสำคัญต้องคิดเชิงบวก เพื่อให้การขับเคลื่อนภารกิจของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการบรรลุวิสัยทัศน์ และเป็นไปตามเป้าหมาย
ภายใต้สภาวะการทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หัวหน้าหน่วยต้องปรับบทบาทในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นผู้นำทางความคิด การปฏิบัติงานให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เป็นแบบอย่างให้กับบุคลากรในองค์กรในการพัฒนาตนเอง มีความรู้ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีกรอบแนวคิดทันสมัย สามารถพัฒนายุทธศาสตร์ในการปฏิบัติงานและมีนวัตกรรมใหม่ๆ นำมาปรับใช้ในการพัฒนาวิธีการปฏิบัติงาน รวมทั้งมีความรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เพื่อขับเคลื่อนงานการพัฒนาสังคมขององค์กรให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป นางนภา กล่าวในตอนท้าย