เกษตรฯ คิกออฟวิทยากร 3 สาร ดีเดย์อบรมรุ่นแรก 23 พ.ค.นี้พร้อมกันทั่วประเทศ

กรมวิชาการเกษตร  เร่งเครื่องต่อยอดวิทยากร 3 สาร  กรมส่งเสริมการเกษตร  จับมือสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย  เข้าคิวติวเข้มรุ่นแรกกว่า 1 พันคน อบรมพร้อมกันทั่วประเทศ 23 พฤษภาคมนี้  พร้อมดึง 3 สมาคมภาคเอกชนร่วมอบรมเพิ่มยอดวิทยากร

นางสาวเสริมสุข   สลักเพ็ชร์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตร  จำนวน 240 คน  ซึ่งผ่านการอบรมหลักสูตรการใช้วัตถุอันตรายอย่างถูกต้องและปลอดภัยไปปฏิบัติหน้าที่วิทยากรเพื่ออบรมเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตร   การยางแห่งประเทศไทย  และสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จำนวน 2,000 คน  ตามแผนปฏิบัติการฝึกอบรมที่กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำไว้ภายใต้มาตรการจำกัดการใช้วัตถุอันตราย 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต  ไกลโฟเซต  และคลอร์ไพริฟอส  โดยการอบรมในรุ่นแรกจะเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมการเกษตรและสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย  จำนวน 1,375 คน  อบรมในวันที่ 23 พฤษภาคม  2562 นี้ ณ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรและศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร  ซึ่งเป็นหน่วยงานในส่วนภูมิภาคของกรมวิชาการเกษตร

พร้อมกันนี้ กรมวิชาการเกษตรยังขอความร่วมมือสมาคมที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร   สมาคมอารักขาพืชไทย  และสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย เข้าร่วมรับการอบรมเป็นวิทยากรเพื่อไปอบรมเกษตรกรที่ปลูกปาล์มน้ำมัน  มันสำปะหลัง  ข้าวโพด และไม้ผล ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร  โดยกำหนดจัดอบรมเจ้าหน้าที่จากสมาคมดังกล่าวรุ่นแรกจำนวน 150 คนในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้เช่นเดียวกัน

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้กรมวิชาการเกษตรอยู่ในระหว่างการสร้างวิทยากรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพื่อไปทำหน้าที่วิทยากรนำความรู้ที่ได้รับทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติไปอบรมเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายจำนวน 1.5 ล้านคนที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้สารทั้ง 3 ชนิดนี้   ส่วนการจัดอบรมวิทยากรรุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากการยางแห่งประเทศไทยเพื่อให้ครบจำนวน 2,000 คน ได้กำหนดจัดในช่วงวันที่ 6 มิถุนายน  2562

ทั้งนี้ เกษตรกรที่จะเข้ารับการอบรมต้องมีทะเบียนเกษตรกร หรือหลักฐานแสดงพื้นที่ปลูกพืชที่มีความจำเป็นต้องใช้สารพาราควอตและไกลโฟเซต  สำหรับกำจัดวัชพืชใน อ้อย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าวโพด มันสำปะหลัง และไม้ผล  และใช้คลอร์ไพริฟอสเพื่อกำจัดแมลงในไม้ดอก พืชไร่ และกำจัดหนอนเจาะลำต้นในไม้ผล    ซึ่งต่อไปการซื้อสารทั้ง 3 ชนิดไปใช้เกษตรกรจะต้องซื้อจากร้านที่ได้รับอนุญาต   แสดงหลักฐานผ่านการอบรม   พร้อมกับแสดงชนิดพืชที่ปลูก และพื้นที่ปลูก เพื่อกำหนดปริมาณวัตถุอันตรายที่จะซื้อได้   

****************************

พนารัตน์  เสรีทวีกุล : ข่าว