นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ตามที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ให้ความสำคัญกับการปกป้องและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน คพ. ได้มอบหมายสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ (สคพ.) ที่ 5, 6 และ 13 ร่วมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการการยกระดับความร่วมมือเพื่อสนับสนุนภารกิจพิทักษ์สิ่งแวดล้อมภายใต้บทบาทเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ท่าจีน และบางประกง เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ณ ห้องประชุมเทพธารา ศูนย์ฝึกอบรมบางปะกง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จังหวัดฉะเชิงเทรา
ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย เครือข่ายภาคประชาชน อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ในพื้นที่ 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ท่าจีนและบางปะกง-ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ครอบคลุม 16 จังหวัด (รวมกรุงเทพมหานคร) และบุคลากรจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด 15 จังหวัด
นายอรรถพล กล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้เพื่อสร้างความร่วมมือเชิงบูรณาการกับเครือข่ายภาคประชาชนระดับลุ่มน้ำในการสนับสนุนภารกิจด้านการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม และเปิดโอกาสให้เครือข่ายภาคประชาชนจากพื้นที่ลุ่มน้ำได้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน รวมทั้งข้อเสนอที่จะขับเคลื่อนงานที่สอดรับกับภารกิจของ ทส. ในระดับพื้นที่ลุ่มน้ำต่อไป โดยได้รับเกียรติวิทยากรจาก พันโทโสมนัส ลพล้ำเลิศ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิติชัย รัตนะ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และคณะ
การปฏิบัติงานตามภารกิจการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ต้องหยุดยั้งและเอาผิดกับผู้กระทำผิดที่ก่อมลพิษส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน และให้ผู้กระทำผิดต้องชดใช้ทั้งทางแพ่งและทางอาญาให้ถึงที่สุด ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ต้องมีการบูรณาการกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและเห็นผล โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเครือข่ายของภาคประชาชน ทั้งนี้ ในการประชุมได้มีการรับฟังข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นจากเครือข่ายลุ่มน้ำภาคประชาชน และ ทสม. ที่เข้าร่วมประชุม ซึ่งเครือข่ายขานรับกับนโยบายการดำเนินงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมและพร้อมจะขับเคลื่อนไปกับ ทส. นายอรรถพล กล่าว