• GGC สนับสนุนงบประมาณสร้างพื้นที่ป่าในประเทศไทย พร้อมร่วมส่งเสริมอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนาป่าชุมชน ให้เป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
• GGC ในฐานะบริษัทแกนนำในธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน และมุ่งมั่นสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ
บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ร่วมสนับสนุนโครงการ Care the Wild “ปลูกป้อง Plant & Protect” โครงการระดมทุน เพื่อการปลูกป่าและ ส่งเสริมการดูแลป่า ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โครงการระดมทุนเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมผ่านความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนร่วมกันในการสนับสนุน ด้วยการ “ระดมทุนปลูกต้นไม้ใหม่ให้ได้ป่า” และ “ร่วมปกป้องผืนป่าด้วยกลไกธรรมาภิบาล”
โดยมีการเปิดเผยข้อมูลและติดตามการเติบโตของป่าผ่านแอปพลิเคชัน “Care the Wild” ความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ GGC ในการมีส่วนร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และด้วยบทบาทความรับผิดชอบในฐานะบริษัทแกนนำในธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งมั่นสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ
GGC ได้สนับสนุนงบประมาณโครงการ Care the Wild “ปลูกป้อง Plant & Protect” สำหรับการปลูกป่าในชุมชนตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่ 20 ไร่ และดำเนินกิจกรรมปลูกป่า ร่วมกับผู้แทนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรมป่าไม้ และชุมชนตำบลสหกรณ์นิคมในพื้นที่ดังกล่าวกว่า 4,000 ต้น
โดยชุมชนตำบลสหกรณ์นิคม จะดำเนินการบริหารจัดการดูแลตลอดระยะเวลา 10 ปี รวมทั้งติดตามและรายงานผลการดำเนินงานแก่บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แปลงปลูกได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าอย่างแท้จริง ความร่วมมือในการสนับสนุนการปลูกป่าแห่งนี้นอกจากจะเป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวยังสามารถช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ 36,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
นายวโรภาส กิมชูวาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพาณิชยกิจ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยเจตนารมณ์ในการมีส่วนร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และด้วยบทบาทความรับผิดชอบในฐานะบริษัทแกนนำในธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่มุ่งมั่นสนับสนุนการการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ GGC จึงเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยสนับสนุนงบประมาณสำหรับการปลูกป่าในพื้นที่ป่าชุมชนตำบลสหกรณ์นิคม จังหวัดกาญจนบุรี
กิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของพันธมิตรและภาคีเครือข่ายในการร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมตามแนวทาง ESG ซึ่งประโยชน์ของโครงการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยกันปลูกและดูแลต้นไม้เท่านั้น แต่เรายังได้ช่วยกันสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย ต้นไม้ที่เราปลูกในวันนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศ ลดภัยแล้ง เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แหล่งต้นน้ำ และสร้างประโยชน์ในแง่การธำรงความหลากหลายทางชีวภาพร่วมกับผืนป่าโดยรอบ ตลอดจนสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนและจะเติบโตเป็นป่าที่สมบูรณ์และยั่งยืนต่อไปครับ”
นายประทีป เอกฉันท์ ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้กาญจนบุรี กล่าวว่า “ป่าชุมชนตำบลสหกรณ์นิคม ถือเป็นผืนป่าที่สำคัญที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและเป็นปอดสีเขียวที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนในชุมชนและอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งต้นไม้ที่นำมาปลูกในวันนี้ ประกอบไปด้วย สัก ประดู่ ยางนา ตะเคียน ไม้แดง พะยูง มะขามป้อม มะยงชิด ทุเรียน และเงาะ เป็นต้น
โดยจะเป็นการปลูกผสมผสานระหว่างไม้ป่าแทรกไม้ผล เพื่อสร้างพื้นที่ป่าและออกผลผลิตให้กับชุมชนในระยะยาว โดยชุมชนและชาวบ้านทุกคนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการดูแล ปกป้องรักษา เพื่อสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศและเป็นต้นทางในการลดภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน
ผมเชื่อว่า “ความยั่งยืน” เกิดขึ้นได้เสมอจากความร่วมแรงร่วมใจและขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหาไปด้วยกัน และในอีก 10 ปีข้างหน้า ผืนป่าแห่งนี้จะเขียวขจี อุดมสมบูรณ์ กลายเป็นผืนป่าที่สามารถนำไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวได้ ที่สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนเกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และการเงินในอนาคต และช่วยปกป้องโลกของเราจากภาวะโลกร้อนอีกด้วยครับ”