กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ชี้แจงกรณีแรงงานไทยที่กลับจากไปทำงานในแอฟริกาใต้แต่ยังไม่ได้รับเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืนกว่าพันรายว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบภาษีรายได้ส่วนบุคคลของสรรพากรแอฟริกาใต้ และหน่วยงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือ MIBFA ยืนยันไม่นิ่งนอนใจ แจ้งให้บริษัทจัดหางานที่จัดส่งแรงงานไปทำงานแอฟริกาใต้เป็นผู้รับผิดชอบดูแลอย่างเร่งด่วน
นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยที่กลับจากไปทำงานในแอฟริกาใต้และยังไม่ได้รับคืนเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจากนายจ้าง โดยแรงงานได้ไปยื่นข้อร้องเรียนกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและกรมการกงสุล ได้ประชุมหารือร่วมกับบริษัทจัดหางานที่จัดส่งแรงงานไทยไปทำงานให้กับนายจ้างที่แอฟริกาใต้ จากการประชุมทราบว่า ขณะนี้ บริษัทจัดหางานฯ ได้ช่วยเหลือติดต่อประสานงานกับแรงงานในประเทศไทย พร้อมทั้งดำเนินการด้านเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปแอฟริกาใต้เพื่อตรวจสอบข้อมูลและติดตามสถานการณ์ยื่นขอคืนเงินสะสมของแรงงานไทยทุกคน ซึ่งมีแรงงานที่เดินทางกลับมาประเทศไทยแล้วจำนวน 1,813 คน ได้รับเงินสะสมคืนไปแล้วจำนวน 684 คน ยังไม่ได้รับเงินสะสมจำนวน 1,129 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2561) และมีแรงงานอีกจำนวน 913 คน เดินทางกลับประเทศไทยในช่วงปี 2560-2561 ซึ่งสถานะยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบภาษีรายได้ส่วนบุคคลของสรรพากรแอฟริกาใต้ และหน่วยงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือ MIBFA
ทั้งนี้ ตามกฎหมายการจ้างงานของแอฟริกาใต้ นายจ้างและลูกจ้างมีหน้าที่นำส่งเงินสะสมเข้ากองทุน Provident Fund ในสัดส่วน 50 : 50 (คนละครึ่ง) และเมื่อสิ้นสุดการจ้างงาน ลูกจ้างมีสิทธิยื่นขอรับเงินสะสมคืนจากกองทุนดังกล่าวได้ตามกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติพบว่าแรงงานส่วนใหญ่จะมอบอำนาจให้บริษัทนายจ้างแอฟริกาใต้เป็นผู้ดำเนินการแทนในเรื่องการขอคืนเงินสะสม โดยเมื่อได้รับเงินคืน บริษัทนายจ้างจะนำเงินส่งผ่านบริษัทจัดหางานในประเทศไทยเพื่อส่งคืนให้กับแรงงานไทยต่อไป แต่พบว่ามีแรงงานไทยบางส่วนยังไม่ได้รับเงินสะสมดังกล่าวคืน ซึ่งการคืนเงินสะสม แรงงานจะได้รับคืนในส่วนที่ตนถูกหักเงินไปเต็มจำนวน รวมกับส่วนที่นายจ้างจ่ายสมทบหลังหักภาษี เนื่องจากส่วนของนายจ้างที่สมทบไปจะต้องนำไปหักภาษีตามอัตราที่กำหนดในขณะที่ขอคืน คงเหลือจำนวนเท่าใดก็จะนำไปรวมเป็นเงินสะสมให้กับแรงงานต่อไป เช่น แรงงานได้รับเงินเดือนขั้นต่ำเดือนละ 30,000 บาท หักสะสมเข้ากองทุนร้อยละ 6 คิดเป็นเงิน 1,800 บาท ทุกเดือน หากมีระยะเวลาการจ้างงาน 5 ปี (สัญญาการจ้างงานปีต่อปี) คนงานจะมีเงินสะสมในกองทุน (1,800 บาท x 12 เดือน x 5 ปี) เท่ากับ 108,000 บาท รวมกับส่วนที่นายจ้างสมทบหลังหักภาษีอีก 86,400 บาท (108,000 บาท หักภาษีประมาณร้อยละ 20) รวมเป็นเงินที่แรงงานจะได้รับคืนประมาณ 194,400 บาท ทั้งนี้ ระยะเวลาการยื่นขอคืนเงินสะสมจนถึงการคืนเงินสะสมต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน
นายอนุรักษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการจัดหางาน และกรมการกงสุล ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้มอบหมายให้บริษัทจัดหางานที่จัดส่งแรงงานไทยไปทำงานแอฟริกาใต้ เป็นผู้รับผิดชอบดูแลในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ทั้งนี้ หากแรงงานไทยคนใดได้รับแจ้งจากสรรพากรแอฟริกาใต้เกี่ยวกับการยื่นภาษี ขอให้ติดต่อบริษัทจัดหางานฯ โดยทันที เพื่อประสานการดำเนินงานร่วมกับบริษัทนายจ้างโดยตรงต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน โทร.0-2245-6708-9