ตามที่มีกระแสข่าวว่า เกษตรกรบางแห่งไม่สามารถขายข้าวโพด ได้ราคาตามที่กระทรวงเกษตรฯ ได้ประกาศไปนั้น จากการสำรวจ พบว่าพื้นที่หลายแห่ง ที่เกษตรกรไปจำหน่าย ไม่ได้เป็นจุดรับซื้อข้าวโพดของสหกรณ์ตามโครงการฯ
นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ขอย้ำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ทุกพื้นที่ว่าให้ตรวจสอบแหล่งรับซื้อ ได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือ สำนักงานสหกรณ์จังหวัด ทุกแห่ง ซึ่งจะมีรายชื่อของสหกรณ์ที่รับซื้อ กำหนดไว้อย่างชัดเจน ครอบคลุมทุกพื้นที่ นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ยังมีระบบตรวจสอบ เว็บ corn service เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่า การจะไม่มีการนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากแหล่งผลิตอื่น มาลักลอบจำหน่ายยังจุดสหกรณ์ ที่เปิดเป็นจุดจำหน่ายแน่นอน
ตัวอย่าง เช่นในพื้นที่ อ.ภูซาง จ. พะเยา จุดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่โครงการฯ กำหนดไว้ ได้แก่ สหกรณ์นิคมเชียงคำ จำกัดโดยมีสหกรณ์การเกษตรบ้านร่องส้าน จำกัด ที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกัน รองรับผลผลิตและส่งจำหน่ายต่อ ซึ่งราคาเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 62 ราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของสหกรณ์ ตามโครงการฯ โดยไม่วัดความชื้น จำหน่ายแบบเหมาราคา อยู่ที่ กิโลกรัมละ 5.20 – 5.40 บาท ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่ สามารถผลิตได้ 1,200-1,500 กก.ต่อไร่ และมีรายได้จากการขายข้าวโพด เฉลี่ยไร่ละประมาณ 6,890 บาท ต้นทุนการผลิตต่อไร่ประมาณ 4,550 บาทต่อไร่ เกษตรกรก็ยังมีกำไรจากการผลิตต่อไร่ประมาณ 2,340 บาท
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ยังได้ย้ำให้ ทุกพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการประกาศจุดรับซื้อ ของสหกรณ์ แต่ละพื้นที่ให้ทั่วถึง เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงจุดจำหน่ายได้ และขายได้ในราคาที่เกษตรกรพอใจ