“จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2562 (วันที่ 1 ม.ค.-29 เม.ย. 62) มีผู้ป่วยรวม 18,105 ราย เสียชีวิต 24 ราย ผู้ป่วยเพิ่มจากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน 8,175 ราย (ปี 2561 มี 9,930 ราย) และเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวน 1,470 ราย จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ สมุทรสาคร นครปฐม ลพบุรี ตราด และราชบุรี กลุ่มอายุที่มีอัตราป่วยสูงสุดคือกลุ่มอายุ 15-24 ปี และจากการตรวจสอบข่าวการระบาดพบว่า ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก 5 ราย ในจังหวัดร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ระนอง นครศรีธรรมราช และกำแพงเพชร”
“การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้จะพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายพื้นที่ยังมีฝนตกจากพายุฤดูร้อน และใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูฝน อาจทำให้เกิดน้ำขังตามภาชนะต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย โรคไข้เลือดออก มียุงลายเป็นพาหะ อาการที่พบส่วนใหญ่มักมีไข้สูงลอย 2-5 วัน ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร อาเจียน อาจมีอาการไอแต่ไม่มีน้ำมูก มีจุดเลือดออกตามตัว เลือดออกตามไรฟัน หลังไข้ลดแล้วมีอาการซึม อาจเข้าสู่ภาวะช็อค ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ไตวาย ตับวาย และเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวและปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น ภาวะอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หอบหืด ภาวะติดสุรา ธาลัสซีเมีย หรือมีประวัติเป็นไข้เลือดออกมาก่อน เป็นต้น การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ด้วยมาตรการ “3 เก็บ 3 โรค” คือ 1.เก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำและเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันดอกไม้ทุกสัปดาห์ 2.เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำต้องปิดฝามิดชิดป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ซึ่งการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย จะสามารถป้องกันได้ 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิก้า และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หากประชาชนมีอาการป่วยข้างต้นขอให้รีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422”
*******************************************************
ข้อมูลจาก : ทีม SAT / สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค