อธิบดี สค. รับหนังสือคำร้อง จากคุณวรวลัญช์ ทวิกาญจน์ รอง Miss Tiffany Universe 2018 กรณีถูกปฏิเสธไม่รับเป็นครู เพราะเพศสภาพ

วันที่ 2 พ.ค. 62 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมริบบิ้นขาว ชั้น 3 กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้รับหนังสือคำร้องจากคุณวรวลัญช์ ทวิกาญจน์ หรือคุณหนาม รองอันดับสอง Miss Tiffany Universe 2018 กรณีถูกโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ปฏิเสธไม่รับเป็นครู เพราะเพศสภาพ ทั้งที่สำเร็จการศึกษาจากคณะครุศาสตร์ และฝันอยากเป็นครูมาตั้งแต่เด็ก

นายเลิศปัญญา กล่าวว่า แม้ว่าจะมีพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2558 โดยเป็นกฎหมายที่ให้การคุ้มครองและป้องกันการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ ซึ่งหมายรวมถึง เพศหญิง เพศชาย และผู้ที่แสดงออกแตกต่างจากเพศกำเนิด ทั้งกรณีที่เป็นการเลือกปฏิบัติระหว่างบุคคล และการเลือกปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชน แต่ก็ยังพบว่ามีผู้ที่ถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ และได้มาติดต่อขอยื่นหนังสือกับทาง สค. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกีดกันไม่รับสมัครงาน การถูกกีดกันไม่ให้เข้าใช้สถานบริการ การถูกห้ามไม่ให้แต่งกายตามเพศสภาพในการเข้าเรียน รวมทั้งการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เป็นต้น

สค. ในฐานะหน่วยงานที่ขับเคลื่อน พรบ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.2558 ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งให้ความรู้และสร้างความตระหนักในเรื่องการขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศให้กับหน่วยงานงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศในสังคมลดลง สิ่งสำคัญคือ “ครอบครัว” ขอให้ปลูกฝังและให้ความรู้แก่สมาชิกในครอบครัวในเรื่องความเสมอภาคทางเพศ การเคารพสิทธิของผู้อื่น และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะหากได้รับการอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็จะเป็นคนที่เข้าใจผู้อื่น เข้าใจในความแตกต่างระหว่างกัน และไม่เกิดการแบ่งแยกกันในสังคม

นายเลิศปัญญา กล่าวต่อไปว่า จากกรณีของผู้ร้องคือคุณวรวลัญช์ ที่รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกเลือกปฏิบัติเพราะเพศสภาพ เนื่องจากได้ไปสมัครเป็นครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ถูกปฏิเสธไม่รับคัดเลือกเป็นครู ถึงแม้ทางโรงเรียนจะให้กรอกใบสมัคร และสัมภาษณ์เบื้องต้น แต่ก็ปฏิเสธที่จะให้ผู้ร้องได้เข้าสู่กระบวนการสอบทักษะการสอน เพื่อพิสูจน์ความรู้ความสามารถของผู้ร้อง โดยให้เหตุผลว่า ผู้ร้องแต่งกายข้ามเพศ และแสดงออกแตกต่างจากเพศกำเนิด ซึ่งได้มายื่นหนังสือคำร้องกับ สค. ซึ่งขั้นตอนต่อไป สค. จะตรวจสอบความถูกต้องของคำร้องตามระเบียบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นคำร้อง การพิจารณา และการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ พ.ศ. 2559 จากนั้น จะนำคำร้องยื่นต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (คณะกรรมการ วลพ.) ตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.2558 เพื่อพิจารณาดำเนินการโดยด่วน โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการ วลพ. ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 นี้ และหากคณะกรรมการ วลพ. มีมติรับคำร้อง ก็จะต้องดำเนินการพิจารณาไตร่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน เว้นแต่มีเหตุอันสมควรให้ขยายเวลาดำเนินการต่อไปอีก แต่ให้ประธานกรรมการ วลพ. กำหนดมาตรการที่จะทำให้การพิจารณาวินิจฉัยแล้วเสร็จโดยเร็ว และเมื่อกระบวนการวินิจฉัยแล้วเสร็จ สค. จะมีหนังสือแจ้งผลการวินิจฉัยให้ทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องต่อไป

อย่างไรก็ตาม สค. ในฐานะตัวกลางในการรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ขอยืนยันว่า คณะกรรมการ วลพ. จะดำเนินการไตร่สวนตามข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย นายเลิศปัญญา กล่าว

ด้านคุณหนาม เปิดเผยว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนถูกเลือกปฏิบัติด้วยเรื่องเพศ แต่ครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตนอยากจะเป็นกระบอกเสียงแทนผู้ที่ถูกเลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม และในการมายื่นคำร้องในวันนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะโจมตีหรือกล่าวโทษสถานศึกษาที่ไม่รับตนเข้าเป็นครู แต่ขอให้กรณีของตนเป็นกรณีตัวอย่างที่ให้สังคมได้เกิดความตระหนักและไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตามควรจะได้รับสิทธิและได้รับการปฏิบัติที่เหมือนกัน ที่สำคัญขอให้มองที่ความรู้ความสามารถมากกว่าเรื่องเพศ คุณหนาม กล่าว

############