นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา กรมการแพทย์ ยืนยันจุดยืนการใช้ประโยชน์จากสารสกัดกัญชาในทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ใช้ในเรื่องสันทนาการ เนื่องจากสารสกัดกัญชามีทั้งคุณประโยชน์และข้อควรระวัง ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลและคำแนะนำของแพทย์ อีกทั้งเน้นย้ำการใช้สารสกัดกัญชาในทางการแพทย์ให้เป็นทางเลือกรองจากการรักษาและใช้ยาตามมาตรฐานแล้วไม่เกิดประสิทธิผล ซึ่งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นสำคัญ
โดยกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้โรงพยาบาลเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบัน รวมถึงการจัดอบรมให้ความรู้กับแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม
พร้อมทั้งติดตามผลการรักษาและผลข้างเคียงจากการใช้สารสกัดกัญชา สำหรับโรค/ภาวะที่ใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ อาทิ ภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด โรคลมชักที่รักษายาก ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ภาวะปวดประสาทส่วนกลาง การดูแลแบบประคับประคองในผู้ป่วยมะเร็งระยะท้าย เป็นต้น
นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการแพทย์ได้มีมาตรการเฝ้าระวังภาวะเสพติดกัญชาด้วยตนเอง โดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ได้จัดทำ Official Line “ห่วงใย” เพื่อให้ผู้ใช้สารสกัดกัญชาสามารถประเมินการเสพติดกัญชาได้ด้วยตนเอง รวมถึงได้จัดสายด่วน 1165 ในการคำแนะนำ ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับยาเสพติด รวมถึงสารสกัดกัญชาไว้ด้วยแล้ว
*****************************************
#กรมการแพทย์ #สารสกัดกัญชา #สารสกัดกัญชาทางการแพทย์
-ขอขอบคุณ-
13 มิถุนายน 2565