ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานพระโอวาทแก่บุคลากรใหม่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในโอกาสเริ่มปฏิบัติหน้าที่

ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานพระโอวาทแก่บุคลากรใหม่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในโอกาสเริ่มปฏิบัติหน้าที่ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

วันอังคารที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๐๗ น. ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เสด็จพระดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทาราศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ในการพระราชทานพระโอวาทแก่บุคลากรใหม่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ โดยมีคณะผู้บริหาร และบุคลากรราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เฝ้ารับเสด็จฯ

การนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เข้าเฝ้ากราบทูลถวายรายงาน และขอพระราชทานพระวโรกาสเบิกบุคลากรใหม่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน ๖๘๖ คน เข้าเฝ้ารับพระราชทานพระโอวาทในโอกาสเริ่มปฏิบัติหน้าที่ใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน โดยบุคลากรที่เข้ารับพระราชทานพระโอวาทในครั้งนี้ ประกอบด้วย

คณะผู้บริหาร (จำนวน ๓๓ คน) ที่ปรึกษา (จำนวน ๑๕ คน) บุคลากรทางการแพทย์และสนับสนุนการแพทย์ (จำนวน ๓๓๙ คน) บุคลากรฝ่ายสนับสนุนทั่วไป (จำนวน ๒๒๘ คน) อาจารย์ (จำนวน ๕๕ คน) ข้าราชการยืมตัว (จำนวน ๕ คน) และบุคลากรในส่วนงานสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ (จำนวน ๑๑ คน) โดยมีผู้แทนบุคลากรผู้เริ่มปฏิบัติหน้าที่จากสำนักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ และวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ ต่อเบื้องพระพักตร์องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

โอกาสนี้ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้พระราชทานพระโอวาทแก่บุคลากรใหม่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “..เราต้องถือว่า เราเป็นหมอเป็นพยาบาล มีทำหน้าที่ ที่จะต้องทำให้เขาดีขึ้น ให้คนไข้ดีขึ้น ไม่ใช่เฉพาะแต่กาย ให้ดีขึ้นด้วยใจด้วย ใจเนี่ยสำคัญกว่ากายอีกเพราะว่าถ้าใจเราดีแล้วกายของเรา มันก็จะดีตามด้วย การรักษาคนไข้ พี่ขอแนะนำว่า ให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา เรา เวลาเรายากลำบากเรารู้สึกอย่างไร เราก็ต้องคิดว่า คนไข้เขาก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน…”

ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๙ ตามพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ.๒๕๕๙ เป็นสถาบันการศึกษาวิจัยและสถาบันการแพทย์ที่ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงมีพระประสงค์จัดตั้งขึ้น เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการสืบสานตามรอยพระราชปณิธานที่ทรงมุ่งหวังให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ได้มาตรฐาน มีวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่นำวิทยาการขั้นสูง นวัตกรรมและความเป็นเลิศไปใช้ในการดูแลคนไทยทุกคนให้สามารถเข้าถึงสุขภาวะที่ดีและเท่าเทียมเพื่อทุกชีวิตตามพระปณิธาน ตามแผนยุทธศาสตร์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ปีพุทธศักราช ๒๕๖๕-๒๕๗๐ ที่มุ่งพัฒนาการศึกษาและนวัตกรรมบริการสุขภาพที่มีคุณภาพสูง เพื่อบริการสังคมและชุมชนทุกระดับด้วยความเป็นเลิศ ทั้งด้านการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ

ภายใต้การจัดการศึกษาของ ๓ วิทยาลัย ได้แก่ สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ และวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน และการพัฒนายกระดับบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สู่สถาบันการแพทย์ครบวงจร ขนาด ๔๐๐ เตียง ภายใต้ชื่อ “ศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์” รวมถึงการมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพเครือข่ายสถาบันบริการด้านโรคมะเร็ง หัวใจและหลอดเลือด ทางเดินอาหาร กระดูกและข้อ และการพัฒนานวัตกรรมบริการสุขภาพที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในทุกพื้นที่เป้าหมายอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ตลอดจนการมุ่งสร้างเสริมความเป็นเลิศด้านการวิจัยพื้นฐานและวิจัยประยุกต์โดยบูรณาการศาสตร์สุขภาพหนึ่งเดียวเพื่อความยั่งยืน และสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีสมรรถนะสูงในการสร้างงานวิจัยเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสนับสนุนการพัฒนาประเทศ