วันที่ 27 เมษายน 2562 เวลา 10.00 น. นายอนุรักษ์ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาสภากัญชาจังหวัดสระแก้ว เปิดการเสวนาวิชาการสภากัญชาจังหวัดสระแก้ว ณ หอประชุมสมาคมชาวไร่อ้อยชายแดนบูรพา ภาคตะวันออก อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
นายกิตติพันธ์ ไพศาลโชคธน ประธานสภากัญชาจังหวัดสระแก้ว กล่าวรายงาน และวัตถุประสงค์ การเสวนาวิชาการสภากัญชาจังหวัดสระแก้ว ว่า ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ซึ่งได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2562 นั้น กัญชาสามารถนำมาเป็นยารักษาโรค และอีกทั้งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญส่งผลให้เกิดการตื่นตัวครั้งยิ่งใหญ่ เป็นการรวมพลังคนไทยให้เป็นเอกภาพ และผลประโยชน์ที่คนไทยทุกคนมีสิทธิ์ และเป็นเจ้าของร่วมกัน
การจัดตั้งสภากัญชาแห่งประเทศเทศไทย โดยมีนายวัฒนา โมสิกมาศ เป็นผู้ผลักดันและริเริ่มก่อตั้ง และมีสมาชิกกิตติมศักดิ์ได้ร่วมกันก่อตั้งโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้ความรู้เชิงวิชาการในกระบวนการต่างๆ เกี่ยวกับข้อบัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับกัญชา สนับสนุนวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ กลุ่ม SME เกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน พ่อค้า และประชาชนทั่วไป ภาคเอกชน ภาครัฐ สถาบันการศึกษา ปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ตามนโยบายของรัฐ ส่งเสริมสนับสนุนกัญชาพื้นเมือง ส่งเสริมกิจกรรมการแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์ทางเลือก หมอพื้นบ้าน ผลิตตำรับยาสมุนไพรที่มีส่วนผสมของกัญชาส่งขายในตลาดไทยและต่างประเทศ
นายวิจิตร สีมา อดีตรองสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว มาเข้าร่วมสังเกตการณ์ กล่าว่า การนำกัญชามาเป็นยารักษาโรคนั้น มีมานาน แต่กฎหมายไม่เอื้อผู้ประกอบการ ขณะนี้ประชาชนตื่นตัวมากๆ และนายาสุเทพ มากสาคร นายกเทศมนตรีเทศบาลคลองหาด กล่าวอยากให้เปลี่ยนชื่อกัญชาเป็นอะไรก็ได้ เช่น พืชสมุนไพร เหมือนยาม้า เป็นยาบ้า และควรแก้ไขกฎหมายให้พืชเศรษฐกิจโดยเร็ว เพราะประชาชนจะเสียโอกาส
ในขณะเดียวกัน นายกิตติพันธ์ ไพศาลโชคธน ประธานสภากัญชาจังหวัดสระแก้ว กล่าวเสริมว่า การจัดเวทีเสวนาในวันนี้ว่า มีประชาชนให้ความสนใจ ประมาณ 1,500 คน เพื่อทำความเข้าใจว่า หากไม่ออกมาดำเนินการเกรงว่าประชาชนจะถูกหลอกและเข้าใจผิด ไปปลูกจะทำผิดกฎหมายก่อนประกาศ พ.ร.บ.เกี่ยวกับกัญชาขึ้น และได้มีวิทยากรจากภาครัฐและเอกชนมาให้ความรู้กับประชาชน
ภาพ/ข่าว โดย ภัทรพล มานะสร้าง
อดีต บก.นสพ.พลังประชารัฐ รายงาน