ไทยรับมอบ “ครอบพระเศียรทองคำ” จากสหรัฐอเมริกา สันนิษฐานเป็นโบราณวัตถุศิลปะล้านนา อยู่ในพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑ พร้อมนำมาจัดนิทรรศการเร็วๆ นี้ เตรียมนำ “ทับหลังจากปราสาทเขาโล้น” จังหวัดสระแก้ว และ “ทับหลังจากปราสาทหนองหงส์” จ.บุรีรัมย์ ไปจัดแสดงในพื้นที่
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ซึ่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ จนถึงปัจจุบัน รวม ๕ ปี ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา ในการติดตามโบราณวัตถุในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศ ได้แก่ ทับหลัง ๒ รายการ จาก Asian Art Museum เมื่อปี ๒๕๖๔ การสร้างการรับรู้ของคุณค่าโบราณวัตถุที่ได้กลับมาอยู่ในถิ่นกำเนิด แก่ผู้ครอบครองโบราณวัตถุของไทยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
จึงได้มีการแจ้งขอส่งมอบโบราณวัตถุที่ครอบครองอยู่ให้กับประเทศไทย โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศและกรมศิลปากร รวมจำนวนถึงปัจจุบันแล้ว ๑๑ ราย ได้แก่ การรับมอบโบราณวัตถุภายในประเทศ จากนายโยธิน ธาราหิรัญโชติและภรรยา เมื่อปี ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา ประกอบด้วย เครื่องปั้นดินเผาสมัยลพบุรี จากแหล่งเตาจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวนมากถึง ๑๖๔ รายการ มูลค่ารวม ๘๒ ล้านบาท เพื่อให้เก็บรักษาเป็นสมบัติของชาติ โดยขณะนี้กรมศิลปากรได้นำไปจัดแสดงในนิทรรศการถาวร ห้องประวัติศาสตร์โบราณคดีสมัยลพบุรี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เครื่องปั้นดินเผาลพบุรีเป็นโบราณวัตถุอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-19
นายอิทธิพล กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากที่ประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อเร็วๆนี้ว่า ได้มีการรับมอบโบราณวัตถุจากต่างประเทศ ได้แก่ ครอบพระเศียรทองคำ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้เป็นผู้แทนประเทศไทยรับมอบจากชาวอเมริกัน และส่งให้กรมศิลปากร เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ซึ่งทางสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้ตรวจสอบเนื้อวัสดุแล้วพบว่าเป็นทองคำ ๙๕ % ครอบพระเศียรทองคำนี้เป็นเครื่องประดับพระเศียรพระพุทธรูป
ประกอบด้วยส่วนครอบพระเศียรกว้าง-ยาว ๑๔ x ๑๗.๖ ซม. หนัก ๑๒.๗ กรัม และส่วนพระรัศมีสูง ๑๒.๗ ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง ๔ ซม. หนัก ๒๙.๙ กรัม เทคนิคดุนทองและตีทอง ในเบื้องต้นสันนิฐานว่าเป็นโบราณวัตถุศิลปะล้านนา อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑ สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยนิยมใช้ประดับพระเศียรพระพุทธรูปแกะสลักจากหิน โดยกรมศิลปากรจะได้นำเข้าเก็บรักษา ณ คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อการศึกษาและการจัดแสดงในนิทรรศการต่อไป
ทั้งนี้ ยังมีความก้าวหน้าจากสำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา ที่ได้มีนัดหมายเข้าเจรจาเพื่อตรวจสอบโบราณวัตถุจากประเทศไทยที่จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเดนเวอร์ ประกอบด้วย ประติมากรรมสำริดจากแหล่งโบราณคดีประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นโบราณวัตถุที่อาจได้รับกลับคืนประเทศไทยในลำดับถัดไป ทั้งนี้ ไทยต้องให้ทางสำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา ดำเนินการในทางกฎหมายก่อน จึงจะทราบผลในที่สุด
นอกจากนี้คณะกรรมการฯ ยังได้หารือถึงการนำทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว และทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ไปจัดแสดงในพื้นที่แหล่งที่มา คือ ศูนย์ข้อมูลอุทยานประวัติศาสตร์สะด๊กกอกธม จังหวัดสระแก้ว และศูนย์ข้อมูลอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานของกรมศิลปากรที่มีระบบการดูแลรักษาความปลอดภัย ต่อไป