นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า “ในการประชุมคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างชาติ จำนวน 18 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีน มีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 2,762 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทยกว่า 897 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้ จะมีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญ หรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการป้องกันและซ่อมแซมการกัดกร่อนท่อส่งน้ำมัน องค์ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการวิจัยและพัฒนาเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตตัวก๊าซของอุปกรณ์กำเนิดก๊าซในถุงลมนิรภัยรถยนต์ องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีของเครื่องสูบจ่ายเคมีและเครื่องสูบจ่ายเคมีระบบลม องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบ ติดตั้ง บำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบประตูอัตโนมัติของรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการทำงานและการใช้เครื่องถ่ายภาพภายในหลอดเลือดโดยใช้คลื่นแสง (OFDI) เป็นต้น
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่
- ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม จำนวน 6 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น เบลเยียม และจีน มีเงินลงทุนจำนวน 1,156 ล้านบาท ได้แก่
- บริการวิจัยและพัฒนาอะลูมิเนียม
- บริการวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตตัวกำเนิดก๊าซซึ่งเป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์กำเนิดก๊าซในถุงลมนิรภัยของรถยนต์
- บริการทำการตลาดและส่งเสริมการขายยารักษาโรคมนุษย์
- บริการให้เช่าอาคารศูนย์กระจายสินค้าพร้อมสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก
- บริการทางบัญชี
- บริการรับค้ำประกันหนี้
- ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า จำนวน 3 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศสิงคโปร์ อังกฤษและเวลส์ มีเงินลงทุนจำนวน 33 ล้านบาท ได้แก่
- บริการให้เช่าเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์
- บริการติดตั้งตะแกรงที่ใช้สำหรับปลูกพืชบนหลังคาและระบบรดน้ำ บนหลังคาอาคาร
- การทำกิจการโฆษณาโดยการให้ใช้พื้นที่ป้ายทาวเวอร์ภายในสถานีบริการน้ำมัน
- ธุรกิจค้าส่ง จำนวน 1 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศอิตาลี และมีเงินลงทุนจำนวน 9 ล้านบาท คือ
- การค้าส่งเครื่องสูบจ่ายสารเคมี และเครื่องควบคุมการสูบจ่ายสารเคมี
- ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาเอกชน จำนวน 8 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศฮ่องกง ญี่ปุ่น และจีน
มีเงินลงทุนจำนวน 1,564 ล้านบาท อาทิ
- บริการออกแบบทางวิศวกรรม จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้ง ทดสอบ ให้คำปรึกษาแนะนำและซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับกลั่นน้ำมัน
- บริการด้านวิศวกรรม จัดหาและก่อสร้าง ภายใต้โครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ
- บริการออกแบบ ติดตั้ง ซ่อมแซมและบำรุงรักษาระบบประตูอัตโนมัติรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
- บริการจัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ และทดสอบอุปกรณ์โทรคมนาคม
- บริการออกแบบทางด้านวิศวกรรม จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบเครื่องจักรและอุปกรณ์ สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตสารเคมีที่ได้จากบิวทาไดอิน
- บริการออกแบบทางด้านวิศวกรรม จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบเครื่องจักรและอุปกรณ์ สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตสารเคมีที่ได้จากไอโซบิวทิลีน
ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน 2562 จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 ในขณะที่เงินลงทุนลดลง 3,780 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 58 เนื่องจากในเดือนมีนาคม 2562 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง คือ บริการรับค้ำประกันหนี้ บริการให้ใช้ระบบบริหารจัดการในการติดตามและตรวจสอบสถานะของรถยนต์ บริการออกแบบ จัดซื้อจัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ รวมทั้งการแก้ไขความชำรุดบกพร่องและบำรุงรักษาโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงิน เป็นต้น
อนึ่งในเดือนมกราคม – เมษายน 2562 คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาต จำนวน 69 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 9,699 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง 15 ราย คิดเป็นร้อยละ 18 ขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 4,828 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 99 เนื่องจากในปี 62 มีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาทิ บริการรับค้ำประกันหนี้ บริการงานวิศวกรรม การจัดหา ติดตั้ง และทดสอบการใช้งานของระบบเครื่องบดดินหรือหินกึ่งเคลื่อนที่โครงการแม่เมาะ บริการออกแบบ จัดซื้อจัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ รวมทั้งการแก้ไขความชำรุดบกพร่องและบำรุงรักษาโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีน้ำเงิน บริการออกแบบทางวิศวกรรม จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบ เครื่องจักร เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ เป็นต้น