กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนระวังพายุฤดูร้อนช่วงสุดสัปดาห์นี้ ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่โล่งแจ้ง อยู่ใต้ต้นไม้สูงใหญ่ หรือป้ายโฆษณา เผยในบางพื้นที่อาจมีลูกเห็บตก

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนระวังพายุฤดูร้อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้    ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่โล่งแจ้ง อยู่ใต้ต้นไม้สูงใหญ่ หรือป้ายโฆษณาขณะเกิดพายุ เผยในบางพื้นของประเทศไทยอาจมีลูกเห็บตก

วันที่ (25 เมษายน 2562) นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 26-28 เมษายน นี้ ประเทศไทยจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ของประเทศ ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก  และภาคใต้ และในบางพื้นที่ของประเทศอาจมีลูกเห็บตก ดังนั้น ขณะเกิดพายุ ประชาชนควรหลบอยู่ในที่ปลอดภัย และไม่ควรอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้สูงใหญ่ หรืออยู่ใกล้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ รวมถึงสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพราะเสี่ยงต่อการถูกล้มทับ ทำให้ได้รับบาดเจ็บหรืออาจเสียชีวิตได้

สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือกับลมพายุ นั้น หากประชาชนอาศัยอยู่บริเวณริมน้ำหรือในพื้นที่เสี่ยง ควรรีบเคลื่อนย้ายไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ควรจัดเตรียมไฟฉาย ตลอดจนยารักษาโรคให้พร้อม โดยในช่วงฝนตกหนักและมีลมพายุ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงอยู่กลางแจ้ง ไม่อยู่ใกล้ต้นไม้สูง     เสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณา ควรหลบในตัวอาคารที่มีความมั่นคง ไม่ควรใช้โทรศัพท์ และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ในขณะที่ฟ้าร้องฟ้าผ่า ทั้งนี้ หลังจากพายุสงบ ไม่ควรเข้าไปใกล้บริเวณสิ่งหักพังหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง หากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขอให้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพทันที โทร.1669

นายแพทย์อัษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า กรมควบคุมโรค ขอแนะนำประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่รถในช่วงที่มีพายุฝน ลมแรง หรือมีลูกเห็บตก โดยให้จอดรถหลบในที่ปลอดภัยเมื่อทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี แต่หากจำเป็น ควรลดความเร็ว เพื่อเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น ต้องประเมินสถานการณ์ และระยะทางข้างหน้าก่อนแซงเสมอ หากจำเป็นต้องขับรถผ่านน้ำท่วมขัง ให้หยุดประเมินสถานการณ์    หากระดับน้ำลึกสูงกว่าขอบประตูรถ ไม่ควรขับฝ่าไป ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

 

*********************************************

ข้อมูลจาก : สำนักโรคไม่ติดต่อ / สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค