วันพุธที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๓.๓๐ น. นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ประสานงานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ อาคารศูนย์สุขภาพชุมชนคลองกุ่มนิเวศน์ ซ.เจริญกาญน์ ๑ ถ.เสรีไทย ๔๑ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
นางนภา กล่าวว่า กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ขับเคลื่อนภารกิจการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครและเครือข่าย สานพลังประชารัฐ ดำเนินการจัดตั้งศูนย์กลางการประสานงานส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนางานด้านอาสาสมัครพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งประสานความร่วมมือของเครือข่ายและภาคประชาสังคม ให้ได้รับสวัสดิการจากภาครัฐ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากร ซึ่งเน้นประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ และบูรณาการงานตามแนวทางประชารัฐเพื่อสังคม ซึ่งอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) คือ หนึ่งในเครือข่ายสำคัญในการขับเคลื่อนงานของกระทรวง พม. ในด้านการพัฒนาสังคมและการจัดสวัสดิการสังคม การมีส่วนร่วมทางสังคม ให้คำแนะนำปรึกษา ประสานการช่วยเหลือ/ส่งต่อ ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน ติดตาม เฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหากลุ่มเป้าหมายในทุกระดับ เพราะพลังอาสาสมัคร คือ พลังของแผ่นดิน ปัจจุบัน เขตบึงกุ่ม มี อพม. จำนวนทั้งสิ้น ๑๓ คน การทำงานที่ผ่านมามีรูปแบบการทำงานเป็นทีม มีการสร้างและขยายเครือข่ายการทำงานระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดย อพม. ได้เข้ามาดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาทางสังคม ทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยมีการจัดชุด อพม. ปฏิบัติงานตามกลุ่มเป้าหมาย ทั้ง ๕ กลุ่ม ตามภารกิจของ พม. ได้แก่ ผู้ยากไร้ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ สตรี เด็กและเยาวชน คณะอนุกรรมการส่งเสริมงานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เขตบึงกุ่ม ได้จัดประชุมหารือ เรื่องแนวทางการจัดตั้งศูนย์ประสานงาน อพม. ระดับเขต ซึ่งผลการประชุมฯ ดังกล่าว มีมติเห็นชอบให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ขึ้น เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนงานด้าน อพม. ตามบทบาทและภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ตลอดจนใช้เป็นศูนย์กลางการดำเนินงานด้านอาสาสมัครเชิงบูรณาการ ระหว่างพื้นที่กับหน่วยงานในระดับเขตและเครือข่ายต่างๆ
จากนั้น นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมด้วย นางณัฐชา ทาวรมย์ ผู้อำนวยกองกิจการอาสาสมัครและภาคประชาสังคม ได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน ๒ ราย โดยรายแรก เป็นหญิง อายุ ๗๙ ปี ประสบปัญหาด้านร่างกายพิการทางการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่กำเนิด อาศัยอยู่กับพี่สาวซึ่งอยู่ในวัยชราและเคลื่อนไหวได้ช้าเนื่องจากกระดูกข้อขาเสื่อม ที่พักอาศัยเป็นบ้านของตัวเองแต่น้องชายได้เอาบ้านไปเข้าจำนองธนาคารและไม่ได้ส่งต่อทางธนาคารจึงจะทำการยึดบ้าน รายได้มาจากหลานที่ทำงานต่างจังหวัดเพียงเดือนละ ๑,๐๐๐ บาท และมีรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ ๗๐๐ บาท และ เบี้ยผู้พิการเดือนละ ๘๐๐ บาท ส่วนรายที่ ๒ เป็นหญิง อายุ ๙๑ ปี มีความพิการทางการเคลื่อนไหว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ลูกชายต้องดูแลตลอดเวลา ทำให้ไม่มีงานทำและรายได้ อาศัยอยู่กับญาติ มีรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ ๑,๐๐๐ บาท และเบี้ยยังชีพผู้พิการ เดือนละ ๘๐๐ บาท ทั้งนี้จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการยกระดับคุณภาพชีวิต โดยบูรณาการการทำงานภายในกระทรวงและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของศูนย์ประสานงาน อพม.เขตบึงกุ่ม จะสามารถขับเคลื่อนและดำเนินงานได้อย่าง มีประสิทธิภาพหรือไม่นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือของพี่น้อง อพม. ทุกท่าน ที่ต้องมีส่วนร่วมในการปฏิบัติหน้าที่ในงานด้าน จิตอาสาอย่างเต็มศักยภาพ มีความเสียสละและสามัคคี ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงการทำงานระหว่างชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นางนภา กล่าวในตอนท้าย