รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมหารือและสนับสนุนการจัดทำข้อตกลงการใช้ใบรับรองสุขภาพโควิด 19 อำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกันของประเทศสมาชิกอาเซียน พร้อมกล่าวถ้อยแถลง การสร้างระบบสุขภาพของอาเซียนให้มีความยืดหยุ่นและเร่งการฟื้นฟูภูมิภาคจากโควิด-19
วันที่ 14 พฤษภาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์จากบาหลีว่า ในช่วงเช้า ได้เข้าร่วมการหารือกับรัฐมนตรีสาธารณสุขอย่างไม่เป็นทางการ ( AHMM Retreat) ในการจัดทำข้อตกลงการยอมรับใบรับรองสุขภาพโควิด 19 เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกันของประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งประเทศไทยได้สนับสนุนการจัดทำข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากจะทำให้การเดินทางไปมาระหว่างภูมิภาคสะดวกและจะช่วยฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจด้วย นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้หารือในประเด็นการจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านสาธารณสุขฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Center for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) ซึ่งได้ยืนยันความพร้อมและความมุ่งมั่นของไทยในการเสนอตัวเป็นที่ตั้งศูนย์ดังกล่าว โดยมีประเทศสมาชิกอาเซียน 6 ประเทศให้การสนับสนุน และมีประเทศที่เสนอตัวเป็นคู่แข่งคือ อินโดนีเซียและเวียดนาม
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในช่วงบ่าย ได้เข้าร่วมการประชุม AHMM ครั้งที่ 15 และได้กล่าวถ้อยแถลง การสร้างระบบสุขภาพของอาเซียนให้มีความยืดหยุ่นและเร่งการฟื้นฟูภูมิภาคจากโควิด-19 (Building Regional Health System Resilience and Accelerating COVID-19 Recovery) โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพของภูมิภาค เพื่อพร้อมรับกับสถานการณ์ฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข และเร่งรัดการฟื้นฟูภูมิภาคจากสถานการณ์โควิด-19 โดยที่ประชุม AHMM ครั้งที่ 15 ได้รับรองเอกสาร ASEAN Post 2015 Health Development Agenda (2021-2025) ซึ่งเปรียบเหมือนยุทธศาสตร์การดำเนินงานด้านสาธารณสุขของอาเซียน และแผนงานการดำเนินงานของอาเซียนด้านสาธารณสุขรายสาขา และแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน แสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการพัฒนาสาธารณสุขอาเซียนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ส่วนในช่วงเย็น ได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีสาธารณสุขของสิงคโปร์ และได้แสดงความยินดีกับสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จในการจัดการโควิด 19 ได้อย่างดี และเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนการตอบโต้โรคระบาดในเขตเมืองในเวทีระดับโลก ซึ่งไทยได้สนับสนุนสิงคโปร์ในด้านนี้ด้วย พร้อมทั้งได้ขอบคุณสิงคโปร์ที่สนับสนุนไทยให้เป็นประเทศที่ตั้ง APCHEED
“ส่วนในวันที่15 พฤษภาคม 2565 จะประชุมกับรัฐมนตรีสาธารณสุขของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน คาดว่าจะมีการหารือแนวทางความร่วมมือด้านสาธารณสุขเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยสุขภาพ ซึ่งตนพร้อมที่จะเสนอความเห็นของประเทศไทยและให้การสนับสนุนความร่วมมือที่อาเซียนได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ประเทศคู่เจรจาของอาเซียนด้านสาธารณสุข ได้แก่ จีน สาธารณรัฐเกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนกับรัฐมนตรีสาธารณสุขประเทศคู่เจรจามาแล้ว 9 ครั้ง และมีการจัดประชุมแยกระหว่างอาเซียนและจีน อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี และอาเซียน-สหรัฐฯ ด้วย โดยการประชุมกับประเทศคู่เจรจานี้ กำหนดจัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปี ต่อจากการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน เพื่อพิจารณาประเด็นสำคัญในการดำเนินความร่วมมือด้านสาธารณสุขร่วมกัน โดยประเทศคู่เจรจาจะเวียนกันเป็นประธานเรียงตามอักษรภาษาอังกฤษ และในปีนี้ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี เป็นประธานร่วมกับอินโดนีเซีย” นายอนุทินกล่าวในตอนท้าย