เดินหน้า “อาหารเป็นยา” เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ นำครัวไทยสู่ครัวโลก

กระทรวงสาธารณสุข เปิดตัวโครงการ“อาหารเป็นยา” ชูสำรับอาหารไทย เน้นสรรพคุณสมุนไพรไทยพื้นบ้าน ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ สร้างความเข้าใจต่อประชาชนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เข้าถึงองค์ความรู้ มีความเชื่อมั่น นำไปสู่การบริโภคอาหารเป็นยา ผลักดันครัวไทยสู่ครัวโลก ช่วยสร้างรายได้สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ

วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ณ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท จังหวัดปทุมธานี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมการขับเคลื่อนนโยบายอาหารเป็นยาใน 15 จังหวัด ว่า ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs (Noncommunicable diseases) เป็นปัญหาสำคัญในระดับโลก เนื่องด้วยกลุ่มโรคดังกล่าวคร่าชีวิตและบั่นทอนสุขภาพของผู้คน และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะน้ำหนักเกินและความอ้วน ที่ก่อให้เกิดโรค สร้างผลกระทบทางสุขภาพทั้งปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิต

โรคหัวใจขาดเลือด และเส้นเลือดตีบ ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ จึงจัดเป็นปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ ซึ่งภาวะเหล่านี้ล้วนมีสาเหตุมาจากปัจจัยเสี่ยงที่สามารถป้องกันและแก้ไขได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เกิดจากวิถีการดำเนินชีวิตที่ไม่สมดุล มีการบริโภคมากเกินความต้องการของร่างกาย ออกกำลังกายน้อย จากรายงานผลการสำรวจพฤติกรรมสุขภาพของคนไทย ในปี 2560 – 2564 จากระบบข้อมูล Health for youของกรมอนามัย พบคนไทยเกินครึ่ง กินผักไม่เพียงพอ ส่วนการกินน้ำตาลและไขมันมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับนโยบาย “อาหารเป็นยา” เป็นการบูรณาการและขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมอนามัย และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รวมถึงภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นรูปธรรมและครบวงจร โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้ สร้างกระแส สร้างความเข้าใจให้ประชาชนมีความรู้ มีความเชื่อมั่นนำไปสู่การสร้างเสริมสุขภาพด้วยการบริโภคอาหารให้เป็นยาตามวิถีธรรมชาติที่เหมาะสม และสามารถสร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ นำครัวไทยสู่ครัวโลก ต่อไปในอนาคต

ทางด้าน นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ตามศาสตร์แพทย์แผนไทยดั้งเดิม มักปรุงอาหารรับประทานโดยใช้รสของอาหารให้เป็นสรรพคุณทางยาเพื่อส่งเสริมป้องกันสุขภาพ คนสมัยโบราณ จึงพิถีพิถันในการเลือกอาหารมารับประทาน โดยยึดหลัก กินอาหารให้เหมาะสมกับธาตุเจ้าเรือน และอาการเจ็บป่วยในขณะนั้น อาหารไทยมีองค์ประกอบเป็นสมุนไพรไทยพื้นบ้านอยู่มากมายทั้งยังมีรสชาติที่อร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ทั้งนี้ยังมีสารสำคัญมากมายที่ช่วยส่งเสริมดูแลสุขภาพ อาหารไทยบางตำรับเป็นเมนูขึ้นชื่อชั้นนำติดระดับโลก เช่น ต้มยำกุ้ง ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ช่วยขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ, ผัดไทย มักรับประทานคู่ผักเคียงที่มีสรรพคุณมากมาย เช่น หัวปลี เป็นยา แก้ร้อนใน กระหายน้ำ และบำรุงน้ำนมในสตรีให้นมบุตร, น้ำพริกลงเรือ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงธาตุ ขับเสมหะ แก้ไอ เป็นต้น ซึ่งส่วนผสมเมนูดังกล่าวมีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ ถือได้ว่าอาหารไทยเป็นยาสมุนไพรที่อร่อยที่สุดในโลกอีกด้วย

********************************** 12 พฤษภาคม 2565