วันนี้พี่หนุ่ม-สุทน จะพาเดินทางไปเที่ยวเส้นทางสามแม่ของ จังหวัดภาคเหนือ 3 คืน 4 วัน เริ่มต้นออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 08.30 น. ถึงตัวเมืองตาก แวะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นศาลแห่งแรกของไทย เสร็จแล้วมานั่งทานอาหารริมน้ำปิง มองวิวทิวทัศน์สวยงามในแม่น้ำปิง ได้เวลาพอสมควรเดินทางต่อเส้นทาง อ.แม่สอด ผ่านศาลเจ้าพ่อพะวอ ต้องแวะขอพร เจ้าพ่อพะวอเคยเป็นนักรบชาวกะเหรี่ยงปะกากะญอและดูแลเมืองแม่ละเมาเมืองหน้าด่านสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและชาวบ้าน ชาวเขาเรียกวีรบุรุษผู้กล้าปกป้องแนวชายแดนเมืองแม่สอด ศาลเจ้าพ่อพะวอสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแม่สอด ได้เวลาพอสมควรอีกแล้วจ้า เดินทางไปต่อไปยังตัวอำเภอแม่สอด เข้าชมศิลปะการจัดสร้างวัดไทยวัฒนาราม เป็นศิลปะแบบพม่า ดูโดดเด่นเช่นองค์พระเจดีย์สีทองเหลืองอราม ด้านหน้ามีสิงห์โตคู่เป็นจุดเด่นของวัดนี้และนมัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ศิลปะพม่า แล้วเดินทางเข้าที่พักโรงแรมใน อ.แม่สอด ราคาไม่แพง 600 บาท พร้อมอาหารเช้าด้วยนะคร๊าบทุกท่าน
รุ่งขึ้นวันที่ 2 เวลา 07.30 น. ออกเดินทางเข้าตลาดแม่สอด มีพระภิกษุสามเณรออกมาบิณฑบาตทุกวันนักท่องเที่ยวใส่บาตรพระได้ แต่ที่น่าสนใจคือโรตีโอ่ง กลายเป็นอาหารเช้าชาวแม่สอดและนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวอ.แม่สอด จ.ตาก จะต้องแวะมาลองรับประทานกันดูครับ (ขอเล่าเรื่องราวโรตีโอ่งให้ฟัง แต่เดิมชาวอินเดียกินโรตีเป็นอาหารเช้า เค้าใช้ภาชนะกลมๆ ใส่ไฟให้ร้อนเอาแผ่นแป้งโรตีตบแป้งให้ติดในภาชนะกลมๆ จนสุก กรอบแล้วกินกับแกงหรือผัดต่าง ๆ ต่อมาชาวอินเดียเดินทางไปค้าขายในประเทศพม่านำวัฒนธรรมการกินโรตีแบบชาวอินเดียเข้ามาด้วยและขยายเข้ามาในตลาดแม่สอดโดยเห็นโอ่งน้ำเล็ก ๆ ของชาวไทยกลม ๆ ก็ทดลองทำโรตี ปรากฏว่าทำและกรอบน่ารับประทานมาก จึงเรียกขานกันว่าโรตีโอ่งแม่สอดกรอบ ๆ และหอม ฉีกชิ้นเล็ก ๆ จิ้มนมมีกาแฟโบราณบวกน้ำชา กลายเป็นอาหารเช้าในตลาดแม่สอด ที่นักท่องเที่ยวต่างชื่นชอบ)
เสร็จแล้วเดินทางไปสะพานมิตรภาพไทยเมียร์ม่าร์แห่งที่ 2 ข้ามแม่น้ำเมย บริเวณต่อไปจะเป็นย่านเศรษฐกิจของอ.แม่สอด จ.ตาก เดินทางต่อตามเส้นทางแม่สอด-แม่ละมาด(ควรแวะปั้มน้ำมัน เข้าห้องน้ำ เติมน้ำมันและซื้อของกินระหว่างเดินทาง) เส้นทางจากแม่ละมาดไป อ.ท่าสองยาง ถนนลาดยางดีมาก ผ่านตลาดท่าสองยางเลียบแม่น้ำเมย ไปจอดรถจุดชมวิวสายน้ำเมยไหลผ่านเชิงเขา 2 แผ่นดิน ไทยกับเมียร์ม่าร์ มีเรือข้ามฝากไปและกลับชาวบ้าน 2 ฝั่งแม่น้ำเมย (จุดชมวิวช่วงหน้าหนาวอากาศดีวิวทิวทัศน์สวยงามและใช้บริการห้องน้ำได้)
เสร็จแล้วต้องเดินทางไปวัดมงคลคีรีเขต วัดนี้เป็นวัดสำคัญของชาวท่าสองยางติดแม่น้ำเมย นมัสการขอพรครูบาสร้อย สังขารท่านไม่เน่าเปื่อยประดิษฐานในมณฑล ครูบาสร้อยท่านเป็นคนเมืองบุรีรัมย์เมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษาวิชากรรมฐานมาในปี 2497 ท่านเดินธุดงค์เพื่อแสวงหาความรู้ตามเขาและเดินทางเลียบชายแดนแม่น้ำเมยถึงวัดท่าสองยางปี 2498 เห็นกุฏิไม้เล็กๆ ท่านได้พบกับตุ๊เจ้าเสือแล้วสนทนาธรรม นั่งสมาธิกรรมฐาน ต่อมาได้ร่วมกับชาวบ้านในเขต อ.ท่าสองยาง จัดพิธีอุปสมบทพระภิกษุสามเณรจนเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้าน วัดท่าสองยางเริ่มเจริญขึ้นและเปลี่ยนชื่อเป็นวัดมงคลคีรีเขต สำหรับครูบาสร้อย เทพเจ้าแห่งท่าสองยาง ในปี 2504 ท่านจะละสังขารคืนนั้นพระภิกษุสามเณรนั่งสมาธิหน้าห้องครูบาสร้อยถึงตี 4 ท่านก็ละสังขาร
คณะเดินทางต่อเส้นทางจากนี้ไปขึ้นเขาทางโค้งและวกวนไปมา 3 โค้ง ซ้าย ขวาและโค้งอันตรายฮ่าๆ ไปแกวง ๆ กันไป สนุกนาน สบายๆ ประมาณ 30-40 ก.ม ถึงพื้นราบผ่านชุมชนเห็นป้ายร้านอาหารเล็ก ๆ บอกร้านสุดท้ายของ จ.ตาก คณะสื่อมวลชนบอกจอดรถได้ยินเสียงถามหิวมั้ย ไม่หิวแต่พอเข้าร้านอาหารทุกคนสังตามใจชอบ ก๋วยเตี๋ยวเล็ก ใหญ่ บะหมี่ต้มยำ ทุกคนอิ่ม(เจ้าของร้านใจดี บอกเดินลงแม่น้ำเงาซิ มีร้านอาหาร ว้าวพึ่งบอก ถ้าบอกก่อนคณะสื่อมวลชนต้องกินอาหารประเภทส้มตำ ไก่ย่างและปลาเผา เสียดายจังขอบอก) แม่น้ำเงาเป็นเส้นแบ่งเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตากกับอ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน แม่น้ำสายนี้ช่วงเดือนเมษายนทุกปี น้ำจะน้อยลง ชาวบ้านนำโต๊ะ เก้าอี้ ร่มกางให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนลงเล่นน้ำ กินอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวแม่น้ำเงามีไปจนเข้าช่วงฤดูฝน พอข้ามสะพานมาคือเขตอุทยานแห่งชาติน้ำเงา จุดชมวิวแม่น้ำสองสี คือแม่น้ำเงาไหลมารวมกับแม่น้ำเมยกลายเป็นแม่สองสี ได้เวลาพอสมควรอีกแล้ว ออกเดินทางต่อไป อ.แม่สะเรี่ยง จ.แม่ฮ่องสอน(ควรพัก1คืน)
รุ่งขึ้นวันที่ 3 เวลา 08.30น. ออกเดินทางไปตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ระหว่างเดินทางแวะท่องเที่ยวได้ จุดแรกจุดชมวิวผาบ่องมีป่าไม้ ร่องน้ำในหุบเขาดูสวยงาม นั่งร้านกาแฟสดและเก็บภาพถ่าย
เสร็จแล้วเดินทางต่อผ่านวิถีของชาวบ้านผาบ่องควรแวะชมและชิมถั่วลายเสือคั่วทราย สินค้าท้องถิ่นใช้เตาคั่วแบบโบราณและยังมีถั่วสายฟ้าผาบ่อง ถั่วเหลือง ถั่วแปยี ถั่วแปหล่อและถั่วปากอ้าเป็นต้น
เดินทางต่อไปถึงชุมชนบ้านผาบ่องแวะท่องเที่ยวและชมศูนย์เรียนรู้ สะพานข้าว 9 เพื่อสุข สะพานไม้ไผ่ทอดยาวข้ามทุ่งนา สามารถร่วมกิจกรรมได้เช่นถั่วลายเสือคั่วทราย การทอผ้า ทำนาด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ ในชุมชนบ้านผาบ่องมีร้านกาแฟสดและร้านอาหาร มีบริการห้องพัก ทุกวันเสาร์ อาทิตย์มีตลาดชุมชนประเภทสินค้าท้องถิ่นเสื้อผ้าชาวไทยใหญ่ ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ
ได้เวลาอีกแล้ว เดินทางเข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เข้าที่พักเสร็จแล้ว เดินทางขึ้นวัดพระธาตุดอยกองมู เป็นวัดสำคัญของเมืองแม่ฮ่องสอนมาตั้งแต่สมัยพญาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองคนแรกเมืองแม่ฮ่องสอน เวียนเทียนรอบองค์พระธาตุเจดีย์ ถ่ายภาพสวยงามแสงอาทิตย์ลับขอบเขา
แล้วลงมากินอาหารค่ำในตัวเมือง เสร็จแล้วนั่งรถตุ๊ก ๆ ชมบรรยากาศตัวเมืองแม่ฮ่องสอน รถตุ๊ก ๆ จะพาไปหลายสถานที่ ขอยกตัวอย่าง 2 ที่คือวัดจองกลางยามค่ำคืน แสงไฟองค์พระธาตุเจดีย์ประดับงดงามและมีเงาสะท้อนลงในบึงน้ำถ่ายภาพสวยงาม จุดที่ 2 เสาร์ อาทิตย์มีตลาดนัดถนนคนเดินมากด้วยสินค้าท้องถิ่นและอาหารการกิน ได้เวลาอีกแล้วคราวนี้เวลานอนครับกลับที่พักได้
รุ่งเช้าวันที่ 4 เวลา 06.00น .เดินทางไปตลาดยามเช้าแม่ฮ่องสอนวิถีชาวเมือง พระภิกษุสามเณรออกบิณฑบาตเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน แล้วเดินทางไปเที่ยวภูโคลนใต้พิภพมีแร่ธาตุตามธรรมชาติ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอาบน้ำแร่ ฟอกหน้าฟอกตัวด้วยโคลนและพร้อมผลิตภัณฑ์ความงาม
เดินทางต่อไปเที่ยวถ้ำปลาถ้ำนี้อยู่เชิงเขาตามธรรมชาติ ปลาพวงอาศัยอยู่เต็มปากถ้ำมองคล้าย ๆ บ่อน้ำแต่ลึกมาก มีฤาษีนั่งจำศีลอยู่ปากถ้ำ (ฮ่า ๆ รูปปั้นนะจ๊ะ) แต่ชาวบ้านเล่าขานเคยมีฤาษีมานั่งบำเพ็ญศิลบริเวณถ้ำปลาดังนั้นถือว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเมืองแม่ฮ่องสอน
ได้เวลาแล้วต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ ตามเส้นทางแม่ฮ่องสอน -อ.แม่สะเรี่ยงถึงอ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง(พักกินข้าว อ.ฮอด)แล้วออกเดินทางไปเส้นทาง อ.ดอยเต่า-อ.ลี้ จ.ลำพูน ขึ้นเขาไม่สูงมากแบบชิล ๆ สบาย ๆ ลงเขต อ.เทิง จ.ลำปาง(พักเติมพลังก่อน)แล้วเดินทางต่อผ่านตัวเมืองตาก เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ถึงประมาณตี 2 (ท่านเคยได้ยินคำนี้มั้ย กำหนดการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม) หรือหยุดพักแรมใน อ.บ้านตาก จ.ตากก็ได้ (ราคาที่พักประมาณ 500-600 บาท น่าสนใจนะจ๊ะ) เส้นทางท่องเที่ยวเลียบแม่น้ำเมย สามแม่ 1.แม่สอด จ.ตาก 2.แม่สะเรี่ยง จ.แม่ฮ่องสอน และ3.แม่ฮ่องสอน
ท่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ 05 3-612-982-2 ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30น. หรือ E-mail Address:tatmhs @tat.or.th หรือhttp:// www.tourismthailand.org/ maehongson และขอขอบคุณ ผอ.ฉัตรชัย ชินคำ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้การสนับสนุนการเดินทางและขอขอบคุณ ผอ.โยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชนชมรมนักข่าวท่องเที่ยวเป็นอย่างดีครับ