วธ.ปลื้มประเทศไทยติดอันดับ 4 ของโลก จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวน่ามาเยือนมากที่สุดในโลก หลังสถานการณ์โควิด-19 “ต้มยำกุ้ง”ติดอันดับ 20 ซุปที่ดีที่สุดในโลกในปี 2022 ของ CNN Travel เดินหน้าบูรณาการทุกภาคส่วน ขับเคลื่อน“Soft Power”
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เป็นที่น่ายินดีที่หน่วยงานที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติได้สำรวจและจัดอันดับประเทศไทยทั้งด้านการท่องเที่ยวและอาหารอยู่ในลำดับต้นๆของโลก ซึ่งผลสำรวจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลกฉบับล่าสุดของวีซ่า(Visa Global Travel Intentions Study) พบว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวลำดับ 4 ที่น่าเดินทางไปเยือนมากที่สุดในโลก เมื่อมีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกครั้ง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
โดยสหรัฐอเมริกาอยู่ลำดับ 1 สหราชอาณาจักรลำดับ 2 และอินเดียลำดับ 3 ส่วนเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไทยที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกค้นหาข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์มากที่สุดคือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่และอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่า ขณะอยู่ในเมืองไทยนักท่องเที่ยวมองหากิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสนใจมากที่สุด คือ นวดแผนไทย รับประทานอาหารไทยในคาเฟ่หรือในร้านอาหาร การใช้เวลาพักผ่อนในรีสอร์ต และเปิดประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมไทย เช่น การเยี่ยมชมวัดไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน CNN Travel ได้คัดเลือกอาหารประเภทซุปจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาจัดอันดับ 20 ซุปที่ดีที่สุดในโลกในปี 2022 โดยในส่วนของอาหารประเภทซุปที่ดีที่สุดในเอเชียนั้น มีอาหารไทยคือ “ต้มยำกุ้ง” ของประเทศไทยติดอันดับด้วย นอกจากนี้ มีอาหารของประเทศในเอเชียด้วย ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ (เฝอบ่อ) ของเวียดนาม ขนมจีนน้ำยาปลา(โมะน์ฮีนกา) ของเมียนมา ซุปไก่ขมิ้น (โซโตอายัม) ของอินโดนีเซีย ทงคตสึราเม็งของญี่ปุ่นและบะหมี่เนื้อเส้นสดหลานโจวของจีน
ทั้งนี้ ประเทศไทยโดยกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)ได้เสนอ”ต้มยำกุ้ง” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ไปเมื่อปี 2564 ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาของยูเนสโก เนื่องจาก“ต้มยำกุ้ง” เป็นอาหารประจำชาติที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ซึ่งการเสนอ“ต้มยำกุ้ง”เพื่อขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ต่อยูเนสโก สร้างความภาคภูมิใจและเห็นถึงคุณค่าในมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้แก่คนไทย รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ ที่ดีต่ออาหารไทยในระดับนานาชาติและโอกาสทางธุรกิจอาหารไทยและผู้ผลิตวัตถุดิบทั้งในไทยและต่างประเทศ
นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า ผลการจัดอันดับที่ประเทศไทยติดอันดับโลกทั้งด้านการท่องเที่ยวและอาหาร เป็นสิ่งที่สร้างขวัญกำลังใจและความภาคภูมิใจให้แก่คนไทย วธ. เครือข่ายทางวัฒนธรรมและทุกภาคส่วน ซึ่งในปีนี้วธ.มีวิสัยทัศน์ใหม่คือ “วัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ มีบทบาทนำในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย”และปรับเปลี่ยนบทบาทสู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ ภายใต้แนวคิด“วัฒนธรรมทำดี ทำงาน ทำเงิน” โดยวธ.บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนขับเคลื่อน “Soft Power”ความเป็นไทยตามนโยบายรัฐบาลและส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่มีศักยภาพของไทย 5 F ได้แก่
อาหาร (Food) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (Fashion) มวยไทย (Fighting) และการอนุรักษ์และขับเคลื่อน เทศกาล ประเพณีสู่ระดับโลก (Festival) เพื่อส่งเสริมการต่อยอดวัฒนธรรมโดยนำคุณค่าของวัฒนธรรมมาสร้างสรรค์สินค้าและบริการเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการ ทางวัฒนธรรมสู่ชุมชนและประเทศ