บีไอจีผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมโชว์ผลสำเร็จการพัฒนาระบบการเงินดิจิทัล ทั้งการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) และระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า มั่นใจช่วยขับเคลื่อนนโยบายรัฐก้าวสู่สังคมไร้เงินสดเพิ่มขีดแข่งขันให้กับประเทศ
นางสาวธฤติมา บุญมาก ผู้จัดการอาวุโสส่วนบริหารความเสี่ยง บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ บีไอจี เปิดเผยว่า บีไอจีผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมครบวงจรในประเทศไทย เล็งเห็นความสำคัญในการปรับตัวเพื่อให้ตอบรับกับสังคมยุคดิจิตัล โดยการพัฒนาและจัดทำระบบทางการเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ทั้งภายในองค์กรและกับคู่ค้าของบีไอจี กล่าวคือ การพัฒนาระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) รวมถึง ระบบใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ตามมาตรฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่จำเป็นต่อการทำธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิกส์ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ซึ่งระบบดังกล่าวจะช่วยลดระยะเวลาและลดต้นทุนในด้านต่าง ๆ อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของภาครัฐ
“รัฐบาลผลักดันให้ภาคเอกชนมีการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อที่จะก้าวสู่สังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบ (Cashless Society) เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ โดยบีไอจีเป็นบริษัทนำร่องรายแรก ๆ ของประเทศที่ได้พัฒนาและใช้งานระบบการเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) และระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ซึ่งสำหรับระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ลูกค้าสามารถล็อกอินเข้าสู่ระบบ BIG e-Invoice ในเว็บไซต์ของบีไอจี (www.bigth.com) จากนั้นเลือกรายการที่ต้องการทำธุรกรรมและทำตามขั้นตอนของระบบฯ เบื้องต้นรองรับการชำระเงินผ่านธนาคารกรุงเทพ และจะขยายการชำระเงินกับธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจากการดำเนินงานช่วงที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี” นางสาวธฤติมากล่าว
สำหรับประโยชน์ของ e-Payment คือ การชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่จะเพิ่มความคล่องตัวของการทำธุรกรรมในยุคดิจิทัล ช่วยลดต้นทุนการจัดการเช็คหรือเงินสด ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและโอกาสในการทำธุรกิจ ช่วยให้คู่ค้าสามารถชำระเงินออนไลน์ได้ในทันทีหรือสามารถตั้งเวลาชำระเงินล่วงหน้า และช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการจ่ายเงิน เช่นเดียวกับระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ที่จะสามารถลดภาระการจัดเตรียมเอกสารเพื่อเสียมูลค่าเพิ่ม ลดต้นทุนการจัดทำเอกสาร ประหยัดเวลาในการรอใบกำลังภาษีสำหรับการวางบิล ลดปัญหาการติดตามใบกำกับภาษีทางโทรศัพท์และอีเมล์
“บีไอจีเป็น 1 ใน 10 ของกลุ่มธุรกิจเอกชนแนวหน้าอาทิ การบินไทย เอสซีจี และธนาคารกรุงเทพ ฯลฯ ที่มีระบบการจัดการใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ระบบยังรองรับการทำธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อย่างครบวงจรซึ่ง เราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีที่ก้าวอย่างรวดเร็วนั้นหากเรานำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์เราก็จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเราไปด้วยและที่สุดจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับประเทศไทย” นางนุชนาถ สังฆคุณ ผู้จัดการแผนกการเงินกล่าวเสริม