กรม สบส.ส่งอสม. ดูแลประชาชนตลอดการเดินทาง ณ ด่านชุมชน เฝ้าระวังป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) ส่งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ทั่วประเทศ ดูแลประชาชนตลอดเส้นทางการเดินทาง โดยปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานในชุมชน เพื่อดูแลประชาชนให้เคารพกฎจราจรในการเดินทางกลับบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ และออกเตือนร้านค้าในชุมชนให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อสกัดกั้นอุบัติเหตุและลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ

นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข  ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี กรม สบส.ได้กำชับให้อสม.ทั่วประเทศ เฝ้าระวัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่ดูแลประชาชนตลอดเส้นทางการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ณ ด่านชุมชน ในปีนี้ดำเนินการระหว่างวันที่ 11–17 เมษายน 2562 เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือน้อยที่สุด โดยให้ อสม.ผลัดเวรประจำด่านชุมชน จุดละ 2-3 คน ตลอด 24 ชั่วโมง สกัดกั้นกลุ่มเสี่ยง ตักเตือน เช่น การขับรถเร็ว ผู้ที่เมาแล้วขับ และพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงเฝ้าระวังร้านค้าในชุมชนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พ.ศ.2555 ทั้งก่อนและในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากพบการฝ่าฝืนให้แจ้งเจ้าพนักงานตามกฎหมาย

นพ.ณัฐวุฒิ อธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์มักเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก กรม สบส. ได้ขอความร่วมมือ อสม.ออกประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึก กระตุ้นเตือนประชาชนให้เคารพกฎจราจรผ่านแอพลิเคชั่น Smart อสม. หอกระจายข่าว เสียงตามสายในชุมชน เป็นต้น โดยเฉพาะผู้ที่เมาแล้วขับ ไม่ควรขับขี่รถออกนอกบ้านแม้ว่าจะอยู่ในระยะใกล้ก็ตาม เพื่อลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิต

นอกจากนี้ กรม สบส.ได้จัดอบรมเพิ่มความรู้หลักสูตร อสม.นักจัดการสุขภาพชุมชนให้มีความรู้ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ให้เป็นจิตอาสาด้านการแพทย์และสาธารณสุข มีความรอบรู้ด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และการใช้เครื่องเออีดี (AED) พร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างถูกวิธี  ก่อนส่งต่อให้บุคลากรทางการแพทย์หรือการส่งต่อไปยังสถานพยาบาลได้อย่างปลอดภัย