วันที่ 20 เมษายน 2565 เวลา7.30 น. นายแพทย์ เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติแการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านระบบทางไกล (VDO Conference) กับผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อประเมินและติดตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด19ให้เกิดประสิทธิภาพ โดยเฉพาะภายหลังเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าสถานการณ์โรคโควิด19 ประเทศไทย เริ่มเห็นแนวโน้มพบจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันลดลง ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักที่กำลังรักษา และ ผู้ป่วยเสียชีวิตยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดโรคในวงกว้างและเข้าไปในกลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยหนัก คือกลุ่ม607 ได้แก่ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง จำนวนมากได้
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ได้ให้ทุกจังหวัดพิจารณาตรวจสอบ Cluster ในสถานที่เสี่ยงในพื้นที่ ให้เน้นการประชาสัมพันธ์ มาตรการป้องกันควบคุมโรคทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้วยมาตรการ Sefl Clean-up และ 2U:
ส่วนในช่วงเดินทางกลับหลังจากสงกรานต์ เน้น 3 มาตรการ ประกอบด้วย
1.มาตรการ WFH คือทำงานที่บ้าน
2.มาตรการตรวจ ATK และมีผลเป็นลบก่อนกลับเข้าทำงาน หรือก่อนเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก
3. มาตรการ 2 u ได้แก่
– Universal Prevention ต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือฟอกสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง ขณะที่ต้องใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคเรื้อรังประจำตัว รวมทั้งงดทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกับผู้สูงวัย หากจำเป็นขอให้ใช้เวลาน้อยที่สุด
– Universal Vaccination ให้เร่งฉีดวัคซีนทุกกลุ่มอายุ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรคอย่างเพียงพอ ป้องกันอาการป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตหากติดเชื้อ โดยเฉพาะผู้สูงวัย และกลุ่มโรคเรื้อรัง
ทั้งนี้ ได้แจ้งให้ทุกจังหวัดตรวจสอบอัตราครองเตียงระดับ 2-3 โดยเฉพาะจังหวัดที่พบผู้ป่วยอาการหนัก รวมทั้งผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ พร้อมทั้งปรับรายงานผู้ติดเชื้อผ่านทางระบบ API เพื่อให้การรายงานผู้ป่วยอาการหนัก และเสียชีวิตได้รับการตรวจสอบสาเหตุการป่วยและการเสียชีวิตอย่างชัดเจน โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดนำร่อง Endemic Approach
#กรมสุขภาพจิต