กรมควบคุมโรค ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยเน้นสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง และหลีกเลี่ยงไปในที่เสี่ยงต่างๆ ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก และขอให้กลุ่มเสี่ยง 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ รีบไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเร็ว รวมทั้งเตรียมความพร้อมรับการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ
วันที่ 13 เมษายน 2565 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ติดตามและสร้างเสริมกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ พร้อมทั้งรับฟังปัญหาและอุปสรรคเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับมาตรการเตรียมพร้อมก่อนเดินทาง Self Clean Up ปลอดเชื้อโควิด 19 ดังนี้
1) ขอให้บุตรหลานพาพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ โดยฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 ไปฉีดวัคซีน หากได้รับวัคซีนครบโดสแล้วให้ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น สามารถฉีดได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน พร้อมตรวจเช็คตนเองหากมีความเสี่ยงให้รีบตรวจ ATK
2) ให้ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention เน้นการสวมหน้ากาก 100% เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ อย่าใช้มือสัมผัสใบหน้า
ทั้งนี้ สถานที่จัดกิจกรรมสามารถจัดกิจกรรมตามประเพณีได้ เช่น การรดน้ำดำหัว หรือสรงน้ำพระ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting อย่างเคร่งครัด จัดกิจกรรมในที่โล่ง และงดรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มร่วมกันเป็นเวลานาน สำหรับการให้บริการการวัคซีน AstraZeneca และ Pfizer (ฝาสีเทา) ที่กรมควบคุมโรคจัดส่งเพื่อให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ เป็นวัคซีนที่ปลอดภัย จึงเชิญชวนให้บุตรหลานที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เข้ารับวัคซีนที่ รพ.สต. ใกล้บ้าน
จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมด่านชุมชนในพื้นที่ โดยเน้นให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะปฏิบัติตามกฎจราจรและกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ 3 ม. ได้แก่ ไม่เมา สวมหมวก ใส่แมส ร่วมกับมาตรการเกราะป้องกัน 3 ด่าน ได้แก่ ด่านตนเอง ควรตระหนักหากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ควรขับรถ ด่านครอบครัว ตักเตือนและป้องกันไม่ให้คนในครอบครัวดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และด่านชุมชน คัดกรองและประเมินคนเมาที่ขับขี่ โดยเน้นที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนถนนสายรอง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางและป้องกันอุบัติเหตุทางถนน หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 หรือขอความช่วยเหลือฉุกเฉินโทรสายด่วน 1669
*****************************
ข้อมูลจาก : สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี กรมควบคุมโรค
วันที่ 13 เมษายน 2565