กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยค่าฝุ่น PM2.5 สูงในหลายพื้นที่ของประเทศ แนะกลุ่มเสี่ยง เลี่ยงอยู่กลางแจ้ง ถ้าจำเป็นออกจากบ้านควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) รายงานคุณภาพอากาศของวันที่ 10 เมษายน 2565 พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ในหลายพื้นที่ โดยภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 44 – 101 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดได้ 48 – 110 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก ตรวจวัดได้ 57 – 94 มคก./ลบ.ม. กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตรวจวัดได้ 58 – 99 มคก./ลบ.ม. ซึ่งศกพ.ได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 พบว่าในช่วงวันที่ 10 – 12 เมษายน 2565 ควรมีการเฝ้าระวังสุขภาพ เนื่องจากสภาพอุตุนิยมวิทยาไม่เอื้อต่อการระบายของฝุ่นในพื้นที่ ประกอบกับสภาพอากาศที่นิ่ง การยกตัวของมวลอากาศต่ำ มีจุดความร้อนมีจำนวนมากส่งผลให้สถานการณ์ฝุ่นละอองสูงขึ้น
นายแพทย์สุวรรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร แม่ค้าริมถนน พนักงานกวาดถนน คนขับรถรับจ้าง ทั้งรถจักรยานยนต์ และรถสามล้อ พนักงานส่งอาหาร และ ผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง จึงควรดูแลและป้องกันสุขภาพตนเองและครอบครัว หากจำเป็นต้องออกจากบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นที่เหมาะสม สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยา และอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และทำความสะอาดบ้านเรือนให้สะอาด ปราศจากฝุ่น
“ทั้งนี้ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนเริ่มมีการเดินทางกันมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าฝุ่นสูงขึ้นตามไปด้วย จึงขอความร่วมมือจากประชาชนหากเดินทางให้ติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศด้วยการ ดูค่า AQI ได้ที่เว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th หรือแอพพลิเคชั่น “Air4thai” ของกรมควบคุมมลพิษ และสามารถประเมินอาการจากการรับสัมผัสฝุ่นละออง และพฤติกรรมการป้องกันฝุ่นนละออง ได้ที่ https://4health.anamai.moph.go.th” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
กรมอนามัย / 10 เมษายน 2565