ตื่นนอนแต่เช้าก็เอากระเป๋าสะพายบนบ่า ก็คงต้องไปข้างหน้าไปตามดอกไม้ว่าหายไปไหน…..ถ้าคนอ่านเกิดไม่ทันยุค 90 อาจนึกเพลงนี้ไม่ออกนะคะ ….ทริปสั้น ๆ กับ สายธาร ได้เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว…คราวนี้เรา จะไปเที่ยวพัทยา!!
พูดถึงพัทยา หลายคนจะนึกถึงแสง สี เสียง และสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรี แท้จริงแล้วพัทยาเป็นเมืองชายทะเลที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและมิได้มีเฉพาะทะเล หรือสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนเท่านั้น พัทยายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่ได้รับความนิยม อาทิ มิโมซ่าพัทยา อาร์ตอินพาราไดซ์ พิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรม 3 มิติ เมืองจำลองพัทยา ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ปราสาทสัจธรรม สวนสนุกพัทยาปาร์ค พิพิธภัณฑ์ริบลีส์ พิพิธภัณฑ์หลุยส์ทุสโซด์ส แว็กซ์เวิร์คและจุดชมวิวเขาพระตำหนัก
ทริปนี้ของพวกเรา ขอเริ่มจากทะเลก่อนละกัน…มาถึงพัทยาทั้งที ถ้าไม่แวะเอาขาจุ่มน้ำทะเลก็เหมือนมาไม่ถึงทะเลพัทยา!!! จุดหมายปลายทางแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงคงเป็น หาดจอมเทียน หรือเกาะล้าน ซึ่งถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้…แต่สำหรับพวกเราแล้วพัทยายังมีอีกหลายหาดที่สวยงามเราเลือก หาดดงตาล เป็นจุดหมายปลายทาง เราเดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 34 (บางนา-บางปะกง) และเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 3 (สุขุมวิท) – ผ่านจังหวัดชลบุรี บางแสน อำเภอศีรราชา ใช้ เวลาเกือบ 2 ชั่ วโมงก็ถึงพัทยา วันนี้ ถนนโล่งตลอดเส้นทางเพราะเราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า
หาดดงตาลจะมีรอยต่อติดกับหาดจอมเทียน แต่ที่นี่จะไม่มีถนนเลียบชายหาดเหมือนหาดจอมเทียน นักท่องเที่ยวจึงค่อนข้างบางตา แผงค้าหรือรถเข็นขายของยังหาได้ยาก หาดนี้จึงดูเงียบสงบ แนวเตียงผ้าใบก็ไม่แออัด หาดทรายของที่นี่ค่อนข้างกว้างและสะอาดกว่าหาดจอมเทียนทริปนี้เราพักที่โรงแรม Rabbit Resort รีสอร์ทขนาดเล็กอยู่บริเวณหาดดงตาล ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่ ใกล้ชิดธรรมชาติมาก เดินรอบ ๆ จะเห็นกระรอกหลากสีวิ่งตามต้นไม้เต็มไปหมด ลักษณะห้องพักและการตกแต่งออกแนวไทยประยุกต์มีความเป็นไทยสมัยเก่าผสมผสานกับไทยสมัยปัจจุบันจากที่พักบรรยากาศดี ๆ เราเลือกเติมเต็มความสนุกสนานของทริปนี้กับ ตลาดน้ำสี่ภาค ตลาดที่รวบรวมของดีจาก 4 ภาคของประเทศไทยไว้ด้วยกัน เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านและมีการแสดงกิจกรรมวิถีประเพณี วัฒนธรรมไทย นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะได้สัมผัสเสน่ห์แห่งสายน้ำวิถีชีวิตแห่งไทย มองดูรอบ ๆแล้วเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ตลาดน้ำในวันนี้คนเยอะมาก อาจเพราะเป็นวันอาทิตย์ด้วย ร้านอาหารตามซุ้มต่าง ๆ ภายในมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ใช่เฉพาะอาหารไทยเท่านั้น ยังมีอาหารแนวฟิวชั่นอีกด้วย
นอกจากจะเดินเล่นรอบ ๆ ตลาดน้ำในโซนของภาคต่าง ๆแล้ว ทางตลาดน้ำยังมีบริการเช่าเหมาเรือล่องน้ำชมทัศนียภาพภายในตลาดน้ำอีกด้วย พวกเราใช้เวลาที่ตลาดน้ำเกือบ 2 ชั่วโมงก็กลับ เพราะวันนี้อากาศค่อนข้างร้อนจัด….
ขับรถออกจากตลาดน้ำสี่ภาค พวกเรายังไม่กลับกรุงเทพฯเลยทีเดียว…ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็มาถึงอุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา…อุทยานแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเก่าแก่และอยู่คู่พัทยามายาวนานมากกว่า 20 ปี ที่นี่คิดค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนไทย 150 บาท/คน และเด็กสูงกว่า 90 ซม. แต่ไม่เกิน120 ซม. 75 บาท/คน เดินเข้ามาภายในจะพบหินในรูปแบบต่าง ๆมากมาย รวมทั้งต้นไม้ที่กลายเป็นหินซึ่งมีอายุหลายล้านปีและยังมีไม้ดัดอายุมากกว่า 200 ปี จากยุครัตนโกสิทร์ตอนต้นอีกด้วยโซนแรกของอุทยานถูกตกแต่งเป็นอุทยานหินและไม้ดอกที่สวยงาม ต้นไม้และดอกไม้จัดวางท่ามกลางก้อนหินรูปทรงแปลก ๆมีบอนไซ และไม้ดัดสวยงาม มีการจัดวางไม้ที่กลายเป็นหินขนาดต่าง ๆ เมื่อเดินเข้ามาด้านในยังมีวงเวียนไม้ดัด ซึ่งเป็นไม้ดัดหายากบางต้นต้องทำกรงครอบไว้เพื่อป้องกันความเสียหายจากนักท่องเที่ยวพวกเราถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ และเดินเข้ามาด้านในจะมีสัตว์ป่าที่หาดูได้ยากหลายชนิด แต่ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คงจะเป็นบ่อจระเข้น้ำจืดและจระเข้น้ำเค็มมากมายหลายบ่อ ซึ่งเลี้ยงจระเข้ในแต่ละช่วงอายุ ตั้งแต่รุ่นเด็กจนถึงรุ่นใหญ่ และใกล้ ๆ กันที่ดูจะเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวก็คือการแสดงโชว์จระเข้ ที่มีการฝึกจระเข้ที่มีความดุร้ายให้เชื่องและเชื่อฟัง การแสดงโชว์นั้นมีทั้งความสนุกสนานและความหวาดเสียว สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากนั กท่ องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่ างมาก โดยไฮไลท์ ของการแสดงนี้อยู่ที่ผู้แสดงจะต่อสู้กับจระเข้ และการแสดงที่มีการนำเอาส่วนต่าง ๆของร่างกายไม่ว่าจะเป็น แขน ขา หรือหัวของผู้แสดงเข้าไปในปากจระเข้ หลังจบการแสดงนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปถ่ายภาพกับจระเข้ที่มาแสดงโชว์ได้ด้วย เช่น การนั่งบนหลังจระเข้
การแสดงโชว์จระเข้จะมีหลายรอบในแต่ละวัน โดยจะมีป้ายบอกเวลารอบการแสดงไว้อย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลที่จะพลาดชมการแสดง เพราะสามารถรอดูในรอบถัด ๆ ไปก็ได้ภายในอุทยานไม่ได้มีแค่จระเข้เท่านั้น แต่ยังมีสัตว์ชนิดอื่น ๆ อีกด้วย เช่น เสือ ช้าง หมี สิงโต อุฐ นกกระจอกเทศปลาบึก ซึ่งปลาบึกของที่นี่มีน้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 100 ก.ก.และนกนานาชนิด ส่วนเสือของที่นี่นั้นนักท่องเที่ยวสามารถดูอย่างใกล้ชิดได้ และที่ดูจะเป็นไฮไลท์ของที่นี่อีกอย่างหนึ่งก็คือ การให้อาหารสัตว์อย่างใกล้ชิดและถ่ายรูปร่วมกับสัตว์ต่าง ๆ ได้ห้องอาหารของอุทยานหินมีเมนูจานเด่นคือ จระเข้แดดเดียวกระดูกอ่อนจระเข้กระเทียมพริกไทย ผัดเผ็ดจระเข้ ซุปจระเข้ เป็นต้นจุดนี้ถือว่าได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่นิยมทานเนื้อจระเข้เป็นอย่างมาก
พัทยา…ในอดีตเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในเขตตำบลนาเกลือ มีธรรมชาติอันสวยงาม หาดทรายขาวสะอาดน้ำทะเลใส บรรยากาศเงียบสงบ วันนี้พัทยาเปลี่ยนไปแล้ว….
พัทยาเมืองน่าเที่ยวถึงแม้ความเงียบสงบหายไป แต่ความสวยงามและความสุขจากการมาที่นี่ไม่เคยหายไปเลยทริปสั้นๆ ของพวกเราจบลงอย่างแฮปปี้ แอนด์ ดิ้ง…แล้วเราจะกลับมาอีก…