พี่หนุ่ม-สุทน เดินทางไปร่วมกิจกรรมปั่นปันรักพักเมืองรอง 2019 ด้วยชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว และสมาคมสื่อไทย-จีนร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงคราม จัดกิจกรรมCSR เมื่อวันที่ 30-31 มีนาคม 2562 จุดแรกเรียนรู้เรื่องทำนาเกลือ ณ ศูนย์เรียนรู้โรงเรียนคนทำนาเกลือ เขตอำเภอเมือง จ.สมุทรสงคราม มีวิทยากรบรรยายให้ความรู้เรื่องนาเกลือ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เรื่องราวของเกลือใช้ถนอมอาหาร(สมัยยังไม่มีตู้เย็น)เช่น ปลาสดๆ ทุกชนิด เนื้อหมู เนื้อวัวต้องใช้เกลือหมักไว้ก่อน ถ้าหากไม่ใช้เกลือหมักไว้จะเน่าเสียทำอาหารไม่ได้ เกลือมีความสำคัญทั้งโลกเมื่ออดีต มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าเกลือ สมัยบ้านเมืองยังไม่เจริญยกกองทัพไปแย่งชิงเกลือ(เดินทางไปเที่ยวและศึกษาประวัติศาสตร์ที่ อ.บ่อเกลือ เมืองน่านได้นะขอบอก) กลับมาด้วยเรื่องราวของเกลือเขต อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม กันต่อ ปัจจุบันความเจริญรุ่งเรืองเข้ามา วิถีการถนอมอาหารทำได้หลายๆ รูปแบบ เช่นไว้ในตู้เย็น เก็บไว้ได้เป็นเดือนหรือหลายๆ เดือนโดยไม่ต้องใช้เกลือแต่เกลือยังไงก็ต้องใช้ปรุงรสชาติอาหารบางอย่างทั้งไทยและอาหารต่างชาติและนาเกลือในเขตพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม เริ่มจะหมดแล้ว เมื่อมีถนนใหญ่เรียกสายหลัก ถนนเล็กๆ เรียกสายรอง ทำให้ราคาที่ดินแพงขึ้นทันที เจ้าของนาเกลือขายที่ดินนาเกลือได้เงินมามากๆมากกว่าการทำนาเกลือ ว้าวถูกต้องแล้ว
ถ้ามีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวตามเส้นทางสายพระราม2 เห็นปั้มน้ำมันทั้งสองข้างทางหรือตลอดเส้นทาง ร้านอาหารมีมาก โรงงานอุตสาหกรรมและตึกต่างๆ เพิ่มมากขึ้น นาเกลือในเขต จ.สมุทรสงครามใกล้จะเหลือแต่ความทรงจำ ดังนั้นจึงมีศูนย์เรียนรู้โรงเรียนคนทำนาเกลือ ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้เรื่องนาเกลือกับเยาวชนและผู้ที่สนใจเข้าร่วมฟังได้เป็นหมู่คณะ เกลือเริ่มจะหมดแล้วจุงเบย ว้าวไม่เป็นไร ฟังอาจารย์โตบรรยาย เกลือพร้อมผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง ขัดผิวกาย ทำยาสีฟันและนวดฝาเท้า เป็นต้น เกลือยังมีความหวังที่จะยังคงไว้ในพื้นดิน เหลือทำนาเกลือทุกวันนี้ (คงมีนาเกลือไม่มากเหมือนอดีต คิดถึงแล้วเศร้าฮึ่มๆ) เสร็จแล้วเดินทางต่อไปบ้านริมคลองโฮมสเตย์ติดคลองอัมพวา อากาศบริสุทธิ์ ธรรมชาติวิวทิวทัศน์บ้านเรือนริมน้ำ คณะสื่อมวลชน25 ชีวิตร่วมกันทำกิจกรรมCSR และเรียนรู้เรื่องขึ้นต้นมะพร้าว ปาดงวงตาลด้วยมีดปาดตาล (ภาษาท้องถิ่นนะ) เอาน้ำตาลลงมาเคี้ยวกลายเป็นน้ำตาลปึก (สมัยก่อนใส่ปีบเรียกน้ำตาลปีบ) ปัจจุบันหยอดเป็นปึกๆ สะดวกสบายเมื่อจำหน่าย ทำขนมต้มแบบฉบับชาวสวนแม่กลอง ส่วนต้นกอจากใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างเช่นทำขนมใบจาก ลูกจากเชื่อมกินกับน้ำแดงอร่อยจังฮุ้(ภาษาใต้) และใบจากอ่อนๆ มาตากแห้งแล้วมวนด้วยเส้นยาสูบเรียกว่าสูบบุหรี่ใบจากฮ่าๆ ฮิตๆไม่เคยเห็น ขอบอกต้องไปศึกษาข้อมูลชาวสวนแม่กลอง เพื่อให้ได้บรรยากาศต้องพักผ่อนบ้านริมคลองเป็นบ้านแบบชาวสวนแม่กลองแต้ๆ นะ (แท้ๆนะ) สุดท้ายกินอาหารแบบชาวสวนแม่กลองสมุทรสงคราม ต้องมีขาดไม่ได้น้ำพริกกะปิเคยตาแดงมีมากในอ่าวแม่กลอง ปลาทูทอดหน้างอคอหัก ผักชะครามของดีเมืองแม่กลอง ต้มยำปลาทูน้ำใส ใส่พริกขี้หนูสวนเผ็ดๆ เปรี้ยวๆ ด้วยรสชาติมะนาวนะสุดยอด และกุ้งสดๆ จากแม่น้ำของชาวบ้านริมน้ำแม่กลอง ปิ้งย่าง แสนอร่อย (แต่ไม่ใช่กุ้งเผาแม่กลองนะจ๊ะ มีแต่กุ้งเผาอยุธยากรุงเก่าพระนครศรีอยุธยาตามที่เค้าเขียนโฆษณาเท่านั้นขอบอก)
รุ่งขึ้นเช้าวันอาทิตย์ที่31 มีนาคม 2562 คณะสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยวร่วมงานปั่นปันรักพักเมืองรอง 2019 ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสงคราม เวลา 07.00 น. เริ่มปล่อยทีมนักปั่นจักรยานไปตามเส้นทางข้ามคลองอัมพวาตลาดน้ำยามเย็นแล้วหยุดพักบริเวณวัดอัมพวันเจติยาราม เดินทางไปตลาดน้ำท่าคาหยุดพักแล้วออกเดินทางกลับมาหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสงครามทำCSR และรับมอบรางวัลแล้วเสร็จพิธีปั่นปันรักพักเมืองรอง 2019 จ.สมุทรสงคราม นักท่องเที่ยวสนใจจะเดินทางไปเที่ยวในเขตสถานที่ท่องเที่ยว จ.สมุทรสงคราม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงครามโทร 034 752 847-8 ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 -16.30 น และขอขอบคุณนางวาสนา สุขเกษม รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงคราม ให้การต้อนรับคณะสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยวและสมาคมผู่สื่อข่าวไทย-จีน
สำหรับรายละเอียดและการเปิดตัวโครงการ “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” จังหวัดสมุทรสงคราม สนามแรกบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักปั่นร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ที่จัดขึ้นครั้งนี้ ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และ ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว ได้ร่วมกันเปิดโครงการ “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” เป็นสนามแรก โดยมีนายธีระ เหลียวสุธีร์ นายอำเภอเมืองสมุทรสงครามจังหวัดสมุทรสงคราม นางวาสนา สุขเกษม รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม ,นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ,นายพูลผล แพทอง ประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว ตลอดจนตัวแทนภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในพิธีเปิดงานอย่างพร้อมเพรียง
นอกจากนี้ ยังมีนักปั่นจักรยานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงนักปั่นจากทั่วประเทศ และต่างประเทศ ที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ กว่า 300 คน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและสนุกสนานสำหรับเส้นทางปั่นจักรยานตามโครงการ “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” ของจังหวัดสมุทรสงคราม นี้ มีระยะเส้นทางรวม 34 กิโลเมตร โดยจุดเริ่มต้นขบวนที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสงคราม มุ่งหน้าสู่วัดอัมพวันเจติยาราม ตำบลัมพวา เป็นจุดที่ 2 ซึ่งนักปั่นจักรยาน ได้เข้าสักการะพระบรมรูปพระบามสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ชมจิตรกรรมฝาหนังที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงโปรดเกล้าให้เขียนขึ้นตามแบบศิลปสมัยรัตนสินทร์ ก่อนจะร่วมกันถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก
จากนั้นขบวนจักรยาน มุ่งหน้าสู่จุดที่ 3 คือ ตลาดน้ำท่าคา ที่ยังคงความเป็นตลาดน้ำธรรมชาติ โดยพ่อค้า แม่ค้าจะพายเรือนำผลผลิตจากสวนและทั้งผลไม้ และพืชผักตลอดจนขนมและอาหารพื้นที่ท้องถิ่น มาขายให้นักท่องเที่ยวทั่วไปในราคาย่อมเยาว์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามสะพานสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านได้ทั้งสองฝั่งคลอง สร้างความประทับใจและรอยยิ้มให้นักปั่นจักรยานอย่างถ้วนหน้า
จากนั้น ขบวนปั่นจักรยานได้เดินทางกลับมาที่จุดปล่อยตัวครั้งแรก เพื่อร่วมกันรับประทานอาหารกลางวัน และร่วมกิจกรรมจับรางวัลผู้โชคดีรับของที่ระลึกต่าง ๆ และมอบเงินสนับสนุนจากน้ำใจของนักปั่นทุกคน สู่ 3 องค์กรในพื้นที่ได้แก่ 1.บ้านเด็กและครอบครัว จ.สมุทรสงคราม 2.โรงเรียนปราโมทย์ พิศสะอาดราษฎร์บำรุง และ 3. วิสาหกิจชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการประกาศรายชื่อนักปั่นขึ้นกล้องชาย,หญิง ประจำสนามแรกเพื่อรับรองที่ระลึกจากชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว
สำหรับโครงการ “ปั่นปันรักพักเมืองรอง” ได้รับการสนับสนุนจาก Amazingไทยเท่ และ วิริยะประกันภัย มีจุดประสงค์เพื่อร่วมสนองนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการประชาสัมพันธ์เมืองรอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนได้มาสัมผัสแหล่งท่องเที่ยว วิถีชีวิตชุมชน ประเพณีและวัฒนธรรมของประเทศไทยเพิ่มขึ้น พร้อมเชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบการปั่นจักรยานได้ปั่นท่องเที่ยวเมืองรองในประเทศไทยเพื่อเก็บสถิติเที่ยวเมืองรอง โดยการปั่นให้ได้มากที่สุด ถึง 55 จังหวัด ซึ่งจะนำร่องปี 2019 จำนวน 12 จังหวัดเมืองรอง ใครลงทะเบียนและมีประสบการณ์ปั่นได้มากที่สุด จะมีรางวัลให้ 100,000 บาท โดยจะทำการสุ่มจับฉลากในจังหวัดสุดท้ายเดือนกุมภาพันธ์ 2563
ทั้งนี้ นักปั่นจักรยานทั่วประเทศ สามารถติดตามสมัครร่วมโครงการ “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” สนามที่สอง จังหวัด ราชบุรี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเปิดกิจกรรม ในวันที่ 21 เมษายน 2562 นี้ นักปั่นท่านใดที่สนใจ ให้ติดตามและสมัครได้ที่ เฟสบุค ปั่นปันรัก พักเมืองรอง เพจเดียวเท่านั้น
https://www.facebook.com/ปั่นปันรัก-พักเมืองรอง-250508025829734/
#Amazingไทยเท่ #เที่ยววิถีชุมชนคนมันส์Greenสมุทรสงคราม #ปั่นปันรักพักเมืองรอง2019
#ปั่นขึ้นกล้อง #ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว #bigmaptravel #เที่ยวเพลิน
#เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #สุขภาพดีสร้างได้ #healthdnetwork