“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 26 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 128,399,428 โดส และทั่วโลกแล้ว 11,184 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง

“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 26 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 128,399,428 โดส และทั่วโลกแล้ว 11,184 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 1,033.8 ล้านโดส

➡️(26 มีนาคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 11,184 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 21.2 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 559 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 217 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 1,033.8 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 372.9 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 26 มีนาคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 128,399,428 โดส

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 11,184 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 26 มีนาคม 2565

จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 128,399,428 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น

-เข็มแรก 55,223,092 โดส (83.4% ของประชากร)

-เข็มสอง 50,213,882 โดส (75.9% ของประชากร)

-เข็มสาม 22,962,454 โดส (34.7% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 26 มี.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 128,399,428 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 297,875 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 190,048 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย

วัคซีน Sinovac

– เข็มที่ 1 22,914,885 โดส

– เข็มที่ 2 3,602,318 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca

– เข็มที่ 1 13,973,388 โดส

– เข็มที่ 2 28,542,019 โดส

– เข็มที่ 3 5,398,553 โดส

วัคซีน Sinopharm

– เข็มที่ 1 7,561,796 โดส

– เข็มที่ 2 7,254,536 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer

– เข็มที่ 1 10,002,727 โดส

– เข็มที่ 2 9,924,743 โดส

– เข็มที่ 3 13,986,413 โดส

วัคซีน Moderna

– เข็มที่ 1 770,296 โดส

– เข็มที่ 2 890,266 โดส

– เข็มที่ 3 3,577,488 โดส

4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 1,033,887,296 โดส ได้แก่

1. อินโดนีเซีย จำนวน 372,939,188 โดส (70.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm

2. เวียดนาม จำนวน 204,566,009 โดส (82%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm

3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 147,986,939 โดส (63.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca

4. ไทย จำนวน 128,399,428 โดส (83.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm

5. มาเลเซีย จำนวน 68,642,700 โดส (84.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac

6. พม่า จำนวน 48,708,905 โดส (47.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

7. กัมพูชา จำนวน 37,778,137 โดส (87.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac

8. สิงคโปร์ จำนวน 13,780,673 โดส (93%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac

9. ลาว จำนวน 10,023,472 โดส (75.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca

10. บรูไน จำนวน 1,061,845 โดส (95%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม

5. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.8%

2. ยุโรป 9.93%

3. อเมริกาเหนือ 8.48%

4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.2%

5. แอฟริกา 3.96%

6. โอเชียเนีย 0.62%

6 ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

1. จีน จำนวน 3,243.6 ล้านโดส (229.3% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)

2. อินเดีย จำนวน 1,827.76 ล้านโดส (132.6%)

3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 559.48 ล้านโดส (166.9%)

4. บราซิล จำนวน 410.18 ล้านโดส (193.7%)

5. อินโดนีเซีย จำนวน 372.94 ล้านโดส (135.2%)

7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

1. คิวบา (311.2%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)

2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (263.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)

3. ชิลี (258.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)

4. กาตาร์ (245%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)

5. มัลดีฟส์ (241.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)

6. บรูไน (240.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)

7. ฝรั่งเศส (236.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna, J&J และ AstraZeneca/Oxford)

8. เกาหลีใต้ (235.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)

9. สิงคโปร์ (234.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)

10. ภูฏาน (233.3%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm Pfizer/BioNTech AstraZeneca/Oxford และ Sputnik V)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)