พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี มีนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ ที่หอประชุมอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวต่อว่า ในฐานะที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นองค์กรหลักที่มีองค์ความรู้ ความชำนาญ และมีเครื่องมือที่ทันสมัย จึงพยายามค้นหาแหล่งน้ำบาดาลใหม่ๆ ในพื้นที่ เพื่อนำมาให้พี่น้องประชาชนใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตร โดยมีเป้าหมาย คือ “ทุกพื้นที่ของประเทศไทย ต้องมีน้ำกินน้ำใช้ไม่ขาดแคลน” ซึ่งปัจจุบันจังหวัดอุทัยธานีมีบ่อน้ำบาดาลที่สามารถใช้งานได้ จำนวน 1,579 แห่ง แบ่งเป็นบ่อน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร จำนวน 114 แห่ง และบ่อน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค จำนวน 1,465 แห่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563-2565รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลช่วยเหลือประชาชนจังหวัดอุทัยธานีผ่านโครงการต่างๆ กว่า 22 โครงการ อาทิ โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่หาน้ำยาก โครงการพัฒนาน้ำบาดาลด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ขนาดพื้นที่ 500 ไร่ โครงการพัฒนาน้ำบาดาล เพื่อความมั่นคงระดับชุมชน เป็นต้น ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก ทั้งด้านเกษตรกรรมและด้านอุปโภคบริโภค ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายและมอบถังน้ำให้กับนายอำเภอ 8 อำเภอ และเป็นประธานปล่อยแถวทีมดับไฟป่าและปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้มอบหมายให้สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 สุพรรณบุรี นำน้ำดื่มสะอาด จำนวน 7,500 ลิตร ส่งมอบให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งเป็นการเบื้องต้นแล้ว
หลังจากนั้นกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ บ้านพุบอน หมู่ 5 ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี มีสมาชิกเกษตรกร 7 ราย พื้นที่มากกว่า 120 ไร่ เกษตรกรปลูกพืช มันสำปะหลัง อ้อย กล้วย และลำไย มีปริมาณน้ำรวมไม่น้อยกว่า 50,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้งและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น