ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน กร 8328 ขอนแก่น เฉี่ยวชนกับเสาไฟส่องสว่างข้างทาง จนพลิกคว่ำตกลงไปข้างทาง บนถนนทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก หลักกิโลเมตรที่ 258 หมู่ที่ 1 ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 5 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 โดยเบื้องต้น ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการ ร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 2 (นครสวรรค์) และ สำนักงาน คปภ. จังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ได้มีการทำประกันชีวิตหรือประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ ได้รับรายงานเบื้องต้นจากสำนักงาน คปภ. จังหวัดพิษณุโลก ว่า รถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน กร 8328 ขอนแก่น ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัทโอไออิ กรุงเทพ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 818-4033-17 เริ่มคุ้มครองวันที่ 15 กรกฎาคม 2561 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 โดยให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัย กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร จำนวน 300,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีความเสียหายต่อร่างกายหรืออนามัย จำนวน 80,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน จำนวน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน
นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่ารถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 1 ไว้กับ บริษัทไอโออิ กรุงเทพ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 118-0131-54427 เริ่มความคุ้มครองวันที่ 15 กรกฎาคม 2561 สิ้นสุดความคุ้มครอง 15 กรกฎาคม 2562 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่ายกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. จำนวน 500,000 บาทต่อคน รวมแล้วไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง) ความเสียหายต่อทรัพย์สิน จำนวน 1,000,000 บาทต่อครั้ง กรณีเกิดความเสียหายต่อรถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้ จำนวน 410,000 บาทต่อครั้ง (ไม่รวมพ.ร.บ.) สำหรับความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน จำนวน 50,000 บาท ผู้โดยสาร 4 คน จำนวน 50,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 50,000 บาทต่อคน การประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาทต่อครั้ง
สำหรับ การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย และผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย นั้น จากการติดตามอย่างใกล้ชิดทราบว่าทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ได้นำศพของผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จังหวัดพิษณุโลก จึงประสานงานไปยัง สำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากบริษัทประกันภัยว่าได้มีการติดต่อกับทายาทของผู้เสียชีวิต ทั้ง 5 ราย แล้ว และจะเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ในส่วนของผู้บาดเจ็บ ทั้ง 3 ราย ที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก นั้น สำนักงาน คปภ. จังหวัดพิษณุโลก ได้แจ้งสิทธิค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยตาม พ.ร.บ. ให้กับผู้บาดเจ็บและโรงพยาบาล ได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะได้ติดตามให้มีการจ่ายตามสิทธิดังกล่าวต่อไป
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต 5 รายและผู้บาดเจ็บ 3 ราย จากอุบัติเหตุดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชนควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและกรมธรรม์ประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย