นายกรัฐมนตรี มอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่อาสาสมัครสาธารณสุขดีเด่นระดับชาติ 17 รางวัล เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี 2565 เป็นขวัญกำลังใจให้กับหมอคนที่ 1 ที่ทุ่มเท เสียสละ ฝ่าฟันภัยสุขภาพเคียงคู่รัฐและประชาชน จนเกิดระบบปฐมภูมิที่เข้มแข็ง สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทย
วันที่18 มีนาคม 2565 ที่ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านดีเด่นระดับชาติ เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ร่วมพิธี และกล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยขณะนี้ยังพบแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งการก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มข้น
ซึ่งประเทศไทย นอกจากมีความพร้อมของระบบบริการสาธารณสุข มีบุคลากรด้านการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ผ่านประสบการณ์ในการรับมือกับโรคและภัยสุขภาพขนาดใหญ่มาหลายครั้ง ยังมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่เป็นพลังสำคัญในการดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชนมาโดยตลอด เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข จึงจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติแก่ อสม.ทั้ง 1,050,000 คนทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดพิธีมอบรางวัล อสม. ดีเด่นระดับชาติ ประจำปี พ.ศ.2565 เพื่อประกาศเกียรติคุณ อสม. ที่มีผลงานดีเด่นระดับชาติ จำนวน 17 รางวัล ซึ่งการดำเนินงานของ อสม.ตลอดระยะเวลากว่า 44 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงเป็นการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขของไทยให้ก้าวหน้า แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนในชุมชนเกิดมีจิตสาธารณะ สร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ ทำให้ประเทศมีความเข้มแข็งในทุกๆ ด้าน นำไปสู่เป้าหมาย “ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง” ต่อไป
“รัฐบาลขอชื่นชม และขอบคุณ พี่น้อง อสม.ทุกท่าน ที่ทำงานด้วยจิตอาสา เสียสละเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพ ทำงานเชื่อมประสานระหว่างประชาชน ชุมชน และเจ้าหน้าที่ได้เป็นอย่างดี จนเกิดระบบสุขภาพปฐมภูมิที่เข้มแข็ง สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยมาโดยตลอด” พลเอกประยุทธ์ กล่าว
ด้านนายอนุทิน กล่าวว่า การมอบรางวัลฯ ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อสม.หมอคนที่ 1 ต้นแบบสุขภาพ ผู้นำจิตอาสาพัฒนาคุณภาพชีวิต” ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิให้เข้มแข็ง โดยตั้งเป้าให้ “คนไทยทุกครอบครัว มีหมอประจำตัว 3 คน” มี อสม.ทำหน้าที่เป็นหมอคนที่ 1 คือหมอประจำบ้าน หมอคนที่ 2 คือหมอสาธารณสุข และหมอคนที่ 3 คือหมอประจำครอบครัว ร่วมกันดูแลสุขภาพของประชาชน โดย อสม. จะเป็นแบบอย่างที่ดีในการดูแลสุขภาพ และเป็นต้นแบบของคนสุขภาพดี ปลอดจากโรคไม่ติดต่อและโรคติดต่อ และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ให้ อสม.เป็นกลไกสำคัญเชิญชวนบุคคลใกล้ชิดและคนในชุมชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
โดยเฉพาะกลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัว 7 โรค (โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน) และหญิงตั้งครรภ์ ให้ได้มากกว่าร้อยละ 70 เพื่อลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตหากติดเชื้อ ทั้งนี้ เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ระบบสุขภาพของประเทศมีความเข้มแข็ง พร้อมรองรับการเปิดประเทศในอนาคต
***************************18 มีนาคม 2565